กทช.ประกาศรายชื่อโอเปอเรเตอร์ขอแบบฟอร์มประมูล 3จีแล้ว 8 ราย ยักษ์ใหญ่ค่ายมือถือมาหมด ควงบริษัทลูกร่วมด้วย ล่าสุดสามารถไอ-โมบาย มาตามนัด คาดร่วมธุรกิจกับอะเซียตา มาเลเซีย ขณะที่จัสมินฯ เข้าร่วมขบวน มั่นใจต่างชาติสนใจเพียบทั้งเกาหลี-ญี่ปุ่น เคาะวันประมูลเริ่ม 20 ก.ย. นี้ 7-8 วันรู้ผล ประกาศจัดงานเอ็กซ์โปสร้างการรับรู้ก่อนใช้งานจริง พ.อ.นที ศุกลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ในฐานะประธานคณะทำงาน 3จี เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการสนใจขอรับแบบฟอร์มรายละเอียดร่างหลักเกณฑ์ การอนุญาตให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3จี บนคลื่นความถี่ 2.1 กิกะเฮิรตซ์ IMT 2100 แล้ว 8 ราย
ล่าสุดคือ บมจ. สามารถ ไอ-โมบาย เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าประมูลร่วมกับบริษัท TM INTERNATIONAL BERHAD หรือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเครือข่ายอะเซียตา ในประเทศมาเลเซียที่เป็นถือผู้หุ้นในสามารถ ไอ-โมบาย 24% บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล และ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น
จากเดิมมี บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์ไลส เน็ตเวิร์ก (เอดับบลิวเอ็น) บริษัทลูกของเอไอเอส บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) และบริษัท ดีแทค อินเตอร์เน็ต บริษัทลูกของดีแทค และบริษัท เอสเค ไวร์เลส เทเลคอม บริษัทลูกของทรูคอร์ป
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าโอเปอเรเตอร์มือถือทั้ง 3 ราย จะส่งบริษัทลูกมาขอรับแบบฟอร์มการประมูลด้วยนั้น วันสุดท้ายที่ปิดรับเอกสาร กทช.กำหนดให้แต่ละรายส่งบริษัทเข้าประมูลได้เพียงบริษัทเดียวเท่านั้น มิฉะนั้นจะเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ตามร่างประกาศของ กทช.
เขาคาดว่า เร็วๆ นี้จะมีผู้ประกอบการอีกหลายราย เข้าขอรับซองการประมูล เชื่อว่านักลงทุนจากต่างชาติเข้ามาร่วมประมูลในครั้งนี้ด้วย ภายหลังจากได้เดินทางไปเชิญชวนนักลงทุนต่างชาติ (โรดโชว์) ซึ่งได้เลือกประเทศที่คิดว่าจะมีผู้สนใจเข้ามาลงทุน อย่าง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 4-5 ล้านบาท จะมีบริษัทต่างชาติให้ความสนใจด้วยทั้งประเทศ เกาหลี และญี่ปุ่น
กำหนดกรอบประมูลวันแรก 20 ก.ย.
พ.อ.นที กล่าวว่า วันที่ 29 ส.ค. นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่ กทช.จะปิดรับซองแบบฟอร์มการประมูล 3จี โดยวันที่ 30 ส.ค. จะให้เอกชนที่สนใจยื่นเอกสารแสดงความจำนงขอเข้าประมูล 3จี หลังจากนั้นอีก 15 วัน จะพิจารณาคุณสมบัติเบื้องต้น (พีคิว) ซึ่งจะกำหนดให้วันประมูลใบอนุญาตเกิดขึ้นวันที่ 20 ก.ย. เป็นต้นไป
เขาคาดว่า กระบวนการประมูลจะใช้เวลา 7-8 วัน ซึ่งการประมูลครั้งนี้ กทช.จะดำเนินการให้มีความโปร่งใสมากที่สุด ซึ่งจะถ่ายทอดผ่านโทรทัศน์ดาวเทียมช่อง MCOT อย่างไรก็ตาม กทช.จะจัดการประมูลในสถานที่ปิด เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นโรงแรมใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพราะป้องกันไม่ให้เกิดการฮั้วราคากัน หรือมีทุจริตการประมูล
การประมูลดังกล่าว จะจัดห้องปิดห้องแยกกันเด็ดขาด แม้กระทั่งพนักงานเสิร์ฟอาหาร ก็กำหนดต้องไม่เดินเสิร์ฟอาหารให้คู่แข่ง พร้อมกับจะจ้างการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
กังวล 2 ประเด็นทำ 3จีสะดุด
เขาระบุว่า ขณะนี้ ยังเป็นห่วง 2 ประเด็น คือ ภายหลังจากที่ผ่านมามีผู้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางเพื่อขอให้ชะลอการประมูล 3จี หากศาลมีคำสั่งคุ้มครองฉุกเฉิน สั่งให้หยุด กทช.คงต้องหยุดดำเนินการทันที ขณะเดียวกัน หากมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ระหว่างการประมูลก็ต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง
“ถ้าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มา กทช.ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ทุกอย่างต้องมีความเห็นที่พ้องต้องกัน ซึ่งต้องมาดูสถานการณ์อีกครั้งว่าจะต้องให้ กทช.รักษามารยาทหรือไม่” พ.อ.นที กล่าว
ตั้งงบ70ล้านบาททำประมูล3จี
พร้อมกันนี้ พ.อ.นที กล่าวว่า กทช.ได้อนุมัติงบประมาณราว 50 ล้านบาท ในการดำเนินการประมูล 3จี ทั้งการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบ นอกจากนี้มีงบ 20 ล้านบาท ออกบูธนิทรรศการแสดงนวัตกรรม 3.9จี Thailand Human D.N.A. เพื่อสร้างการรับรู้ ตลอดจนการให้ข้อมูลความรู้ความถูกต้องและมีประโยชน์ต่อบริโภค ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐ และเอกชน กำหนดจัดขึ้นวันที่ 8-12 ก.ย. นี้ เวลา 10.00-20.00 น. คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงาน 1 ล้านคน
แนวคิด "Human D.N.A" จะเปรียบเสมือนโครงข่ายวิถีชีวิตคนไทยทุกคนในสังคมวัฒนธรรม ประเพณีเดียวกัน โดยมี ดีเอ็นเอ ได้แก่ Device อุปกรณ์สื่อสาร Network ระบบการสื่อสาร และ Application โปรแกรมการบริการ เป็นเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อพัฒนาระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ และสอดรับการดำเนินชีวิตในทุกมิติของคนในสังคม
ยันร่างครอบงำฯเปลี่ยนได้
ทั้งนี้ พ.อ.นที ยังกล่าวถึงประเด็นร่างประกาศกำหนดข้อห้าม การกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการ โดยคนต่างด้าวกับการกีดกันการแข่งขัน คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ได้อนุมัติในหลักการให้นำร่างประกาศ กทช. ว่าด้วยการกำหนดข้อห้ามการกระทำ ที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าว พ.ศ. ....ว่า จะรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ (ประชาพิจารณ์) วันที่ 20 ส.ค. นี้ ซึ่งยืนยันว่าร่างดังกล่าวยังไม่ถือเป็นฉบับสมบูรณ์ สามารถปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสมได้
รายงานข่าวแจ้งว่า ร่างครอบงำฯ ต่างด้าวเป็นการสร้างกลไก ให้เกิดการประสานความร่วมมือ ระหว่างผู้กำกับดูแลและผู้รับใบอนุญาต ให้มีช่องทางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน แจกแจงรายละเอียดและเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับการครอบงำกิจการโดยคนต่างด้าวอย่างทันท่วงที
รวมทั้งยังเป็นการป้องกันผลกระทบ ที่จะเกิดกับผู้ใช้บริการ กรณีผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ มีพฤติกรรมฝ่าฝืนข้อห้ามของกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ และยังเป็นการสร้าง Self discipline ของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ทำให้เกิดวินัยในการดำเนินธุรกิจโดยผู้ให้บริการมีภาระในการตรวจสอบสถานะภาพ ของบริษัทของตนเองให้โปร่งใสอยู่ตลอดเวลา จะนำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่ผู้บริโภคอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ร่างประกาศดังกล่าว ไม่ได้กีดกันคนต่างชาติในการทำธุรกิจในประเทศไทย ตรงกันข้ามเป็นการส่งเสริมให้นักธุรกิจ สามารถทำธุรกิจได้โดยถูกกฎหมายมากกว่า ที่จะพยายามเลี่ยงกฎหมาย เพื่อบริการแก่คนไทยจำนวนหลายสิบล้านคน
ส่วนประเด็นเรื่องขัดกับพันธกรณีกับองค์การการ ค้าโลก รวมทั้งข้อตกลงความร่วมมืออาเซียนนั้น หากจะพิจารณานัยการกำหนดข้อห้ามการกระทำที่มีลักษณะเป็นการครอบงำกิจการโดย คนต่างด้าวของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ ภายใต้หลักการที่จะสร้างการแข่งขันที่เท่าเทียมกันในกรอบประเด็นกฎหมาย ระหว่างประเทศ โดยเป็นไปตามข้อกำหนดของ General Agreement on Trade in Services หรือ GATS
เป็นความตกลงทั่วไปว่าด้วยการค้าและบริการ ระหว่างประเทศภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (WTO) ในปี 1994 ประเทศไทยได้ข้อผูกพันตามพันธกรณี โดยให้อนุญาตให้บริษัทต่างประเทศ เข้ามาถือหุ้นได้ไม่เกินร้อยละ 20 ในการเปิดให้บริการโทรคมนาคม และรับพันธะข้อผูกพันเฉพาะภาคผนวกด้านโทรคมนาคมโดยไม่ได้ผูกพันตนเองใน reference paper ขององค์การการค้าโลก จึงไม่บังคับการเปิดตลาดโทรคมนาคมพื้นฐานของประเทศ
เครือข่ายผู้บริโภคหนุนนัมเบอร์พอร์ต
นายพนัชทร สุนทราภิมุข ผู้แทนเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ได้เดินทางไปให้กำลังใจและสนับสนุน กทช. เดินหน้าเปิดบริการคงสิทธิเลขหมาย (นัมเบอร์พอร์ตทิบิลิตี้) เพื่อให้ประชาชนได้รับบริการและประโยชน์อย่างเต็มที่ โดยกรอบเวลาการเปิดบริการนัมเบอร์พอร์ต วันที่ 1 ก.ย. นี้ถือว่าเหมาะสมแล้ว เพราะ กทช. ได้ประกาศให้มีบริการดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนส.ค. 2552 และได้ขอให้บริการดังกล่าวนี้ไม่เสียค่าบริการในการย้ายเครือข่าย เพราะถือว่าการโอนย้ายเลขหมายจากผู้ประกอบการรายหนึ่งไปสู่อีกรายหนึ่ง ไม่ถือว่าผู้ประกอบการเสียประโยชน์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ผู้ประกอบการไม่ควรฟ้องร้อง กทช. ต่อศาลปกครอง หากไม่สามารถเปิดบริการได้ทันตามกำหนด เพราะบริการดังกล่าวถือเป็นประโยชน์ของส่วนรวม
นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 18/08/53