วันที่ 13 ก.ค. คณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ในคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) เปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ต่อร่างประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ชั่วคราว (กิจการโทรทัศน์ที่มีการบอกรับสมาชิก) หรือเคเบิลทีวี และเรื่องหลักเกณฑ์การประกอบกิจการบริการชุมชนชั่วคราว (วิทยุกระจายเสียงชุมชน)
ทั้งนี้ ร่างฯ ประกาศดังกล่าว จะใช้ควบคู่กับอีก 2 ประกาศ กทช.ที่ประกาศใช้ไปแล้ว คือ ประกาศหลักเกณฑ์ใบอนุญาตชั่วคราว และประกาศหลักเกณฑ์ค่าธรรมเนียมในกิจการทั้ง 2 ประเภท โดยมีผู้ประกอบการร่วมประชาพิจารณ์ 2,200 คน
ตามร่างฯ หลักเกณฑ์การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ มีทั้งหมด 5 หมวด คือ 1. การประกอบกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ 2. รายการ 3. การหารายได้ 4. มาตรการคุ้มครองผู้ใช้บริการ และ 5. มาตรการเพื่อบังคับการให้เป็นไปตามประกาศ
ประเด็นที่มีการแสดงความคิดเห็นจากผู้ประกอบการ เคเบิลทีวีท้องถิ่นมากที่สุด คือ หมวด 1 ข้อ 11 ที่ระบุว่า ให้ผู้รับใบอนุญาตนำเงินรายได้ 2% ก่อนหักค่าใช้จ่าย ส่งให้สำนักงานเพื่อนำเงินเข้ากองทุนทุกสิ้นปีงบประมาณ
นายเกษม อินทร์แก้ว นายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่างฯ หลักเกณฑ์การประกอบกิจการ ควรจะเป็นหลักเกณฑ์ด้านการกำกับดูแลกิจการเคเบิลทีวีท้องถิ่นให้ดำเนินด้วย ความเรียบร้อย จึงไม่ควรกำหนดแนวทางการจัดเก็บรายได้กับกิจการเคเบิลทีวีท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ประกอบการท้องถิ่น ต่างจากเคเบิลทีวีระดับชาติ ที่มีเงินทุนจำนวนมาก
"กองทุนสื่อ ที่เคเบิลทีวีต้องจ่ายเงินสมทบ ยังไม่มีการแจกแจงรายละเอียดว่าจะนำเงินรายได้ไปพัฒนาด้านใด และจะสนับสนุนผู้ประกอบการท้องถิ่นอย่างไร จึงต้องการให้ กทช.อนุโลม การหักรายได้ 2% เข้ากองทุนไว้ก่อนและรอให้ กสทช. มากำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าวอีกครั้ง" นายเกษมกล่าว
นายวิชิต เอื้ออารีวรกุล อุปนายกสมาคมเคเบิลทีวีแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ร่างฯ ดังกล่าว กำหนดหลักเกณฑ์ควบคุมดูแลเฉพาะเคเบิลทีวีท้องถิ่น โดยไม่มีการควบคุมเคเบิลทีวีระดับชาติ กทช.ควรจะออกหลักเกณฑ์ เรื่องการห้ามผูกขาดลิขสิทธิ์รายการด้วย ปัจจุบันเคเบิลทีวีรายใหญ่ได้ซื้อลิขสิทธิ์รายการต่างๆ เก็บไว้จำนวนมาก รวมทั้งต้องการให้มีการกำหนดการจัดเก็บค่าสมาชิกรายเดือนของเคเบิล ทีวีระดับชาติ ว่าไม่ควรต่ำกว่า 500 บาท และเคเบิลทีวีท้องถิ่น ไม่เกิน 500 บาท เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม
นายนิพนธ์ นาคสมภพ นายกสมาคมโทรทัศน์ดาวเทียม (ประเทศไทย) กล่าวว่า หลักเกณฑ์เรื่องการหารายได้จากโฆษณาเคเบิลทีวี ที่โฆษณาไม่เกินชั่วโมงละ 6 นาที รวมทั้งวันเฉลี่ยไม่เกินชั่วโมงละ 5 นาที ซึ่งไม่มีความเท่าเทียมระหว่างเคเบิลทีวี และฟรีทีวี ที่โฆษณาชั่วโมงละ 12 นาที
นายต่อพงศ์ เสลานนท์ ประธานคณะทำงานกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ในคณะอนุกรรมการวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ กล่าว หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการแล้ว คณะทำงานจะนำข้อมูลมาพิจารณาเพื่อปรับปรุงร่างฯ ซึ่งอาจจะแก้ไขในประเด็นการจัดเก็บรายได้ 2% ของผู้รับใบอนุญาตเข้ากองทุนพัฒนากิจการกระจายและกิจการโทรทัศน์ เพื่อประโยชน์สาธารณะ ซึ่งการกำหนดหลักเกณฑ์ หักรายได้ 2% เป็นไปตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการ ปี 2551
คณะทำงานอาจจะปรับแก้ไขให้มีความยืดหยุ่นมาก ขึ้น โดยระบุการจัดเก็บรายได้เข้ากองทุนไม่เกิน 2% และให้ กทช.เป็นผู้กำหนดเงื่อนไขอีกครั้ง โดยวันที่ 16 ก.ค.นี้ คณะทำงานจะประชุมปรับปรุงร่างฯ จากการพิจารณาความคิดเห็นในเวทีประชาพิจารณ์วานนี้ และจะเสนอร่างฯ ให้คณะอนุ พิจารณา และเสนอให้ กทช.เห็นชอบปลายเดือนนี้ เพื่อประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา