สคบ.ออกมาตรการคุมเอสเอ็มเอส จี้มือถือทำระบบป้องกันภายในส.ค.
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สคบ. ได้เรียกประชุมผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางแก้ปัญหาการเสนอขายสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์มือถือและบริการเอสเอ็มเอส โดยแบ่งมาตรการเร่งด่วน ให้ผู้ใช้บริการที่ไม่ต้องการรับเสนอขายสินค้าและบริการ สามารถติดต่อไปยังคอลล์เซ็นเตอร์ เพื่อขอบล็อกการรับบริการเหล่านี้
อีกทั้งได้สั่งการไปยังสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) ให้แจ้งเตือนผู้ประกอบการห้ามเปิดเผยข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ผู้ใช้บริการ ซึ่งจุดนี้จะประสานกับคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ให้ออกประกาศเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคให้ชัดเจน และสั่งการให้ผู้ให้บริการทั้ง 3 รายหลัก คือ เอไอเอส ดีแทค และ ทรูมูฟ สร้างระบบป้องกันการส่งเอสเอ็มเอส เสนอขายสินค้าให้เสร็จภายในเดือนนี้
ส่วนกรณีปัญหาขายประกันทางโทรศัพท์ สคบ. ได้มีหนังสือไปถึงสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อเร่งรัดให้บังคับใช้หลักเกณฑ์และวิธีการเสนอขายกรมธรรม์ทางโทรศัพท์ พ.ศ. 2552 โดยเข้มงวด
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสกลุ่มบริการเสริม บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า ดีแทคเปิดให้ลูกค้าแจ้งความประสงค์ไม่รับเอสเอ็มเอสมาประมาณ 1 ปีแล้ว ทั้งนี้เป็นการบล็อกเอสเอ็มเอสที่ส่งจากระบบอัตโนมัติเท่านั้น ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่จะมาจากเอสเอ็มเอสลักษณะนี้
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการส่งเอสเอ็มเอสปกติ จากโทรศัพท์มือถือด้วยกันยังไม่สามารถทำได้ ซึ่งทุกรายเป็นเหมือนกันหมด และมีบางระบบที่ซื้อจากต่างประเทศส่งเข้ามา ก็บล็อกไม่ได้เหมือนกัน
ปัจจุบัน ดีแทคและเอไอเอส มีลูกค้าโทรเข้ามาให้ช่วยบล็อกเอสเอ็มเอสประมาณเดือนละ 400-500 ราย ขณะที่ทรูมูฟมีกว่า 100 ราย
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 1 ส.ค.52