มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เร่ง กทม. และสนง.เขตปทุมวัน ดำเนินการรื้อถอนอาคารสูงดิเอทัส ในซอยร่วมฤดี หลังยืดเยื้อเกือบ 10 ปี
จากการที่ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2561 ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืนตามศาสปกครองกลาง ไม่รับคำร้องของ บริษัท ลาภประทาน จำกัด และ บริษัท ทับทิมทร จำกัด ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมดิเอทัส บางกอก ความสูง 24 ชั้น และ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ดิ เอทัส เรสซิเดนซ์ ความสูง 18 ชั้น ในซอยร่วมฤดี ที่ยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งควบคุมอาคารโรงแรมดิเอทัสนั้น (อ่านเพิ่มเติมได้ที่: ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งยืน ไม่รับฟ้องคัดค้านรื้อ ‘โครงการดิเอทัส’ ซอยร่วมฤดี)
นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) กล่าวว่า การที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งไม่รับคำร้องของทั้งสองบริษัท ทำให้ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไม่มีข้ออ้างใดๆ อีก และต้องดำเนินการตามคำพิพากษาเดิม ที่มีคำสั่งให้กทม. และสำนักงานเขตปทุมวันดำเนินการรื้อถอนอาคารดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 90 วัน
“นี่ก็ผ่านมา 3 ปี แล้วตั้งแต่ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเมื่อปี 2558 แต่เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็ยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งสิ้น ครั้งสุดท้ายได้รับหนังสือจากสำนักงานบังคับคดีปกครองว่า กทม. เปิดหาประมูลผู้ทำการรื้อถอนอาคาร 2 หลัง โดยให้เหตุผลว่าเขาไม่มีศักยภาพพอที่จะรื้อตึกดังกล่าวได้ เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อผู้อยู่อาศัยโดยรอบ จึงต้องหาผู้รับเหมามาดำเนินการ แต่จนปัจจุบันก็ยังหาไม่ได้” นายเฉลิมพงษ์กล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินการในอนาคต นายเฉลิมพงษ์กล่าวว่า มพบ. จะยื่นคำแถลงต่อศาลปกครองให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป และจะทำหนังสือสอบถามไปยังผู้ว่า กทม. เรื่องการดำเนินดคีกับบริษัททั้งสอง ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน เนื่องจากยังมีการใช้อาคารดังกล่าวมาโดยตลอด ทั้งที่สำนักงานเขตปทุมวันมีประกาศห้ามใช้อาคารตั้งแต่ วันที่ 30 ตุลาคม 2560