กฟผ. 7 ม.ค. - นายสมบัติ ศานติจารี ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยภายหลังร่วมพิธีลงนามกับบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด ในสัญญาให้บริการงานเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าราชบุรี มูลค่ารวม 16,500 ล้านบาท เกี่ยวกับค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย.52 ) ว่า ทาง กฟผ.เสนอตัวเลขต้นทุนไปให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือเรคกูเลเตอร์รับทราบแล้ว โดยเสนอไป 2-3 ราคา แต่สุดท้ายจะปรับขึ้นมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับเรคกูเลเตอร์ตัดสินใจ
อย่างไรก็ตาม นายสมบัติ ยอมรับว่า ต้นทุนเอฟทีงวดนี้ปรับเพิ่มสูงมาก เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงหลัก คือ ก๊าซธรรมชาติพุ่งมาอยู่ระดับเฉลี่ยประมาณ 250 บาทต่อล้านบีทียู เป็นผลมาจากราคาก๊าซธรรมชาติที่เป็นสูตรผูกติดกับราคาน้ำมันเตาย้อนหลัง 6-12 เดือน โดยราคาในช่วงดังกล่าวนับเป็นช่วงราคาสูงสุดในช่วงราคาน้ำมันดิบ 147 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับราคาน้ำมันในขณะนี้ที่ต่ำลงเมื่อเทียบกับช่วงดังกล่าว โดยเคลื่อนไหวที่ 40-50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ดังนั้น เพื่อทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าสะท้อนราคาเชื้อเพลิงตลาดโลกที่แท้จริง
ผู้ว่าการ กฟผ.กล่าวอีกว่า กฟผ.ได้เสนอไปยังเรคกูเลเตอร์ ขอให้มีการเจรจากับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อปรับเปลี่ยนสูตรการซื้อขายก๊าซธรรมชาติระหว่าง กฟผ.กับ ปตท.ใหม่ ให้เป็นสูตรราคาล่วงหน้า 4 เดือน ซึ่งจะสะท้อนต้นทุนน้ำมันแท้จริงมากกว่าและน่าจะเป็นราคาที่ผูกติดกับความเป็นจริง เนื่องจากสัญญาการซื้อขายน้ำมันส่วนใหญ่เป็นราคาล่วงหน้าที่สามารถดูได้จากข้อมูลต่าง ๆ ในตลาดค้าน้ำมันของโลก แต่ยังไม่ทราบว่าเรคกูเลเตอร์จะเห็นด้วยหรือไม่ โดยหากเห็นด้วยแล้วก็สามารถปรับสูตรการค้าก๊าซฯ ระหว่าง กฟผ.กับ ปตท.ได้ ค่าไฟฟ้าก็น่าจะสะท้อนตามต้นทุนที่แท้จริงได้ไม่สวนทางราคาน้ำมัน ส่วนปัญหา ปตท.กับเจ้าของสัมปทานแหล่งก๊าซที่ใช้สูตรราคาย้อนหลังจะได้รับผลกระทบหรือไม่นั้น ผู้ว่าการ กฟผ. กล่าวว่า คงเป็นเรื่องของผู้ผลิตและจำหน่ายก๊าซจะเจรจากันเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเรคกูเลเตอร์จะมีการประชุมเพื่อสรุปค่าเอฟที ในต้นสัปดาห์หน้า ซึ่งแม้ว่าในขณะนี้ต้นทุน ค่าก๊าซธรรมชาติจะขยับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับต้นทุนครั้งที่แล้ว 22 บาทต่อล้านบีทียู คำนวณเป็นค่าเอฟทีที่ต้องปรับขึ้นมากกว่า 10 สตางค์ต่อหน่วย และเมื่อไปรวมกับค่าเอฟทีเดิมงวดที่แล้วที่ต้องเกลี่ยมางวดนี้อีกไม่ต่ำกว่า 14.85 สตางค์ต่อหน่วย รวมแล้วต้นทุนจะขึ้นประมาณเกือบ 30 สตางค์ต่อหน่วย แต่เรคกูเลเตอร์จะใช้วิธีการเกลี่ยราคารอบใหม่เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบมากเกินไป โดยคาดว่าค่าเอฟทีที่ปรับขึ้นงวดนี้จะใกล้เคียงกับงวดที่แล้วที่เคยปรับขึ้น 14.85 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนต้นทุนที่เกลี่ยไปนั้นคงจะนำไปเพิ่มในงวดต่อ ๆ ไปที่คาดว่าต้นทุนก๊าซจะลดลงตามสูตรผกผันตามราคาน้ำมันที่ลดลงในช่วนปลายปีที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้. -
สำนักข่าวไทย
อัพเดตเมื่อ 2009-01-07 17:39:29