ทิศทางราคาพลังงานปี 57 น้ำมันโลกลด แต่ไทยไม่ได้อานิสงค์ เหตุเงินบาทอ่อนค่า จับตาเบนซินแก๊สโซฮอล์ 95 จ่อทะลุลิตรละ 41 บาท  ส่วนราคาก๊าซ ทั้งภาคครัวเรือนและขนส่งขึ้นต่อตามแผน ด้านค่าไฟ  มีโอกาสขยับอีก หลังขึ้นประเดิมไปแล้วงวด ม.ค.-เม.ย.
 
 นายสุรงค์ บูลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บมจ.ปตท. หรือ PTT  ในฐานะประธานกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบตลาดโลกปี 2557  เฉลี่ยจะอยู่ที่ระดับ 104-105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  โดยปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากปี 2556 ที่ค่าเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ 105  เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันดิบนอกกลุ่มโอเปก เช่น  สหรัฐฯ รัสเซีย เม็กซิโก จะมีเพิ่มขึ้น ทำให้การผลิตโลกโดยรวมจะเพิ่มอีก  1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่ความต้องการของโลกคาดว่าจะโตเพิ่มขึ้น 1.1  ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น
 
 “แม้ว่าน้ำมันดิบในตลาดโลกปี 2557  น่าจะมีเสถียรภาพจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่จะค่อยๆ ฟื้นตัว  แต่ก็ต้องดูปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ  โดยเฉพาะปัญหาในตะวันออกกลางที่อาจทำให้ราคาผันผวนในช่วงสั้นๆ ได้  ส่วนราคาขายปลีกน้ำมันของไทย อาจไม่ได้อานิสงค์จากราคาตลาดโลกที่ลดต่ำลง  หากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทของไทยอ่อนค่าลง”นายสุรงค์กล่าว
 
 สำหรับปี 2556 คาดว่าจะมีกำลังการผลิต 165 ล้านลิตรต่อวัน  หรือคิดเป็นอัตรากำลังการผลิตที่ 86% ของกำลังผลิตทั้งหมด  โดยผลิตเป็นน้ำมันสำเร็จรูป 135 ล้านลิตรต่อวัน  เพื่อรองรับความต้องการใช้ในประเทศ  ส่วนที่เหลือนำไปจัดสรรเพื่อจำหน่ายให้กับอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและการส่งออก  โดยรวมมูลค่าการผลิตทั้งปี 2556 อยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท คาดว่าปี 2557  หากเศรษฐกิจมีการเติบโตในระดับ 5% จะทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
 
 นายมนูญ ศิริวรรณ นักวิชาการด้านพลังงาน กล่าวว่า  ราคาพลังงานของไทยในปี 2557  ภาพรวมจะสูงขึ้นจากการปรับโครงสร้างราคาพลังงานไทยที่ถูกตรึงไว้ให้ต่ำกว่า ตลาดโลก  รวมถึงปัจจัยจากค่าเงินบาทที่ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่อ่อนค่า  ซึ่งบาทอ่อนค่า 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จะมีผลต่อต้นทุนราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น  0.80 บาทต่อลิตร ดังนั้น ราคาน้ำมันขายปลีกย่อมได้รับผลกระทบ  แม้ว่าราคาตลาดโลกไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้นก็ตาม
 
 “ราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน ช่วงเม.ย. ซึ่งเป็นช่วงขาขึ้นของตลาดโลก  เพราะเข้าสู่ฤดูท่องเที่ยว หากค่าเงินบาทยังอ่อนค่าระดับ 33  บาทต่อเหรียญสหรัฐ โอกาสจะเห็นราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ราคาทะลุ 41  บาทต่อลิตรก็มีสูง ซึ่งปีที่แล้วเคยทำไว้ที่ 41.03 บาทต่อลิตร  ถือเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์”นายมนูญกล่าว
 
 นายมนูญกล่าวว่า ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี)  และก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์หรือ NGV  รัฐบาลได้วางกรอบในการทยอยปรับขึ้นราคาขายปลีกไว้แล้ว  โดยเฉพาะแอลพีจีที่จะปรับจาก 18.13 บาทต่อกิโลกรัม (กก.)  ไปสู่ราคาหน้าโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาทต่อกก. โดยจะทยอยปรับขึ้นเดือนละ  0.50 บาทต่อกก. ซึ่งวันที่ 1 ม.ค.2557จะต้องปรับอีก 0.50 บาทต่อกก.  และเมื่อราคาแอลพีจีครัวเรือนไปชนเพดานที่ราคาแอลพีจีขนส่งที่ 21.38  บาทต่อกก.  ราคาแอลพีจีภาคขนส่งก็จะต้องทยอยปรับขึ้นไปสู่เป้าหมายเดียวกับแอลพีจีครัว เรือนที่ 24.82 บาทต่อกก. เช่นเดียวกับ NGV ที่ตามกรอบก็จะต้องปรับขึ้น  โดยมีเงื่อนไขให้ ปตท. เร่งขยายปั๊มด้วย
 
 "แม้ว่ารัฐจะทยอยปรับโครงสร้างราคาพลังงาน โดยเฉพาะแอลพีจี  แต่หากพิจารณาจากราคาตลาดโลกขณะนี้ แอลพีจีสูงถึง 1,150 เหรียญสหรัฐต่อตัน  ซึ่งหากค่าเงินบาทอยู่ระดับ 32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ  เท่ากับราคาแอลพีจะอยู่ที่ 37.70 บาทต่อกก.  ซึ่งยังสูงกว่าราคาขายปลีกของไทยมาก”นายมนูญกล่าว
 
 นายเทียนไชย จงพีร์เพียร ที่ปรึกษาสำนักนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)  กล่าวว่า  แนวโน้มค่าไฟฟ้าระยะสั้นอาจจะมีความผันผวนตามทิศทางราคาน้ำมันและค่าเงินบาท ที่อ่อนค่า ซึ่งชัดเจนว่างวดใหม่ (ม.ค.-เม.ย.2557) ปรับขึ้นแล้ว  เนื่องจากค่าบาทอ่อนค่าจะมีผลต่อต้นทุนค่าไฟเพิ่มขึ้น 5.6 สตางค์ต่อหน่วย
 
 อย่างไรก็ตาม ทิศทางค่าไฟฟ้าของไทยจะแพงขึ้น  หากไม่สามารถปรับโครงสร้างเชื้อเพลิงการผลิตได้  เนื่องจากปัจจุบันไทยพึ่งพิงก๊าซธรรมชาติผลิตไฟสูงถึง 70%  ซึ่งระยะยาวไทยจะต้องพึ่งการนำเข้าก๊าซฯ ในรูปก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG  ซึ่งล่าสุดราคาสูงถึง 17 เหรียญสหรัฐต่อล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน  ซึ่งจะส่งผลต่อต้นทุนการผลิตไฟในระยะยาวให้ปรับขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โดย ASTVผู้จัดการรายวัน 1 มกราคม 2557
