องค์กรผู้บริโภคอีสานคัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG กับประชาชนเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกกฏหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเร็ว
เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ โรงแรมแก่นอินน์ จ.ขอนแก่น เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสานจัดเวทีให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่อง ขึ้นราคา LPG , NGVความจริงเบื้องหลัง พลังงานไทยเพื่อใคร โดยมีคุณสมลักษณ์ หุตานุวัตร นักวิชาการอิสระที่ติดตามเรื่องพลังงานมาให้ข้อมูลและแลกเปลี่ยนกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกว่า ๑๐๐ คนจาก จังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานและจากเครือข่ายต่างๆโดยผู้เข้าร่วมทุกคนร่วมกันทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอคัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม LPG กับประชาชน และนำหนังสือคัดค้านกลับไปรณรงค์กับประชาชนที่อยู่ในจังหวัดของตนเอง ในหมู่บ้านทุกครัวเรือนเพราะทุกครัวเรือนใช้ก๊าซและจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ช่วงท้ายเวทีมีการออกแถลงการณ์คัดค้านการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีกับประชาชน โดยมีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ดังนี้
๑. ให้รัฐบาลสั่งเก็บเงินจากธุรกิจปิโตรเคมีในอัตรา ๑๒.๕๕ บาทต่อกก.เท่าเทียมกับภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีเงินเพิ่มขึ้นถึงปีละ ๓๐,๐๐๐ ล้านบาท (เทียบจากปริมาณการใช้ในปี ๒๕๕๕) และจะทำให้หนี้กองทุนน้ำมันฯ หมดไปทันทีภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี อีกทั้งสามารถยุติการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ จากผู้ใช้น้ำมัน
๒. ให้รัฐบาลกำหนดหลักการจัดสรรปริมาณก๊าซ LPG ที่ผลิตได้จากโรงแยกก๊าซให้ภาคครัวเรือนและยานยนต์เพื่อใช้ในการยังชีพเป็นลำดับแรก เนื่องจากเป็นก๊าซที่มาจากทรัพยากรของประเทศซึ่งประชาชนเป็นเจ้าของ ส่วนปริมาณการผลิตก๊าซ LPG ที่เหลือจากการจัดสรรข้างต้นจะถูกนำไปจัดสรรให้กับภาคอุตสาหกรรมทุกชนิด (รวมถึงปิโตรเคมี) เป็นลำดับต่อไป ทั้งนี้ หากปริมาณการผลิตก๊าซ LPG จากการจัดสรรในลำดับแรกไม่เพียงพอกับปริมาณความต้องการใช้ในภาคอุตสาหกรรม ให้มีการนำเข้าก๊าซ LPG จากต่างประเทศมารองรับในส่วนที่ขาด โดยให้ภาคอุตสาหกรรมเป็นผู้รับภาระเองโดยตรงหรือใช้เงินกองทุนน้ำมันฯในส่วนที่ภาคอุตสาหกรรมได้สะสมไว้
๓. ให้รัฐบาลมีคำสั่งห้ามมิให้ปลัดกระทรวงพลังงานและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงาน ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงาน เป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานโดยเด็ดขาด เพื่อแก้ไขปัญหาการมีผลประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) ซึ่งขัดต่อหลักธรรมาภิบาลสากลอย่างร้ายแรง อันนำมาซึ่งปัญหามากมายในนโยบายพลังงานไทยในปัจจุบัน
ทางด้าน นางอาภรณ์ อะทาโส ผู้จัดการสมาคมผู้บริโภคร้อยเอ็ด กล่าวว่า ทางออกการแก้ไขปัญหาด้านพลังงานประเทศไทยต้องปฏิรูปโครงสร้างเรื่องพลังงานเพราะประชาชนไม่มีส่วนในการจัดการทรัพยากรในพื้นที่ ทั้งๆที่บ่อก๊าซก็อยู่ในพื้นที่หมู่บ้านของตนเองแต่ไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในมุมของผู้บริโภคขณะนี้องค์กรผู้บริโภคเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งออกกฏหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่ค้างอยู่ที่สภาเพราะจะเป็นช่องทางหนึ่งในการที่คณะกรรมการองค์การอิสระนี้จะให้ความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาของหน่วยงานรัฐในการตราและการบังคับใช้กฏหมายและกฎ และให้ความเห็นในการกำหนดมาตราการต่างๆเพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งวันนี้ช่วงเวลา ๑๗.๐๐ – ๒๑.๐๐ น. ทางเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคภาคอีสานจะไปรณรงค์ที่ตลาดต้นตาลขอนแก่น โดยมีคณะหมอลำไพบูลย์เสียงทอง เพื่อให้ประชาชนรู้ถึงความสำคัญของการมีองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคและร่วมกันส่งเสียงให้รัฐบาลออกฏหมายนี้โดยเร็ว
นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ศูนย์ข่าวผู้บริโภคภาคอีสาน รายงาน
{gallery}energy/560609_action{/gallery}