กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ระบุ ปีนี้ไทยใช้ก๊าซถึง 5,000 ล้านลบ.ฟุต เร่งหาทางออกหลังการผลิตก๊าซจะลดลงในอีก 5 ปีข้างหน้า
นายทรงภพ พลจันทร์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ประมาณการใช้ก๊าซธรรมชาติปีนี้จะเพิ่มขึ้น 10% หรือมีการใช้รวมประมาณ 5,000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยจะเป็นก๊าซจากอ่าวไทยประมาณ 3,800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และพม่า 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน โดยคาดว่าจะรักษาระดับการผลิตในอ่าวไทยในระดับนี้ได้เพียง 5 ปีเท่านั้น หลังจากนั้น อัตราการผลิตจะลดลง เนื่องจากไม่มีแหล่งก๊าซขนาดใหญ่ในอ่าวไทยเพิ่มเติมเข้ามา
นายทรงภพ กล่าวว่า ในขณะนี้กระทรวงพลังงานกำลังดูภาพรวมในเรื่องการเตรียมพร้อมสำหรับปริมาณ ก๊าซในอ่าวไทยที่จะลดลงไม่ให้เกิดปัญหาในการผลิตไฟฟ้า และปิโตรเคมี ซึ่งจะส่งผลต่อประชาชนทั้งประเทศ โดยแนวทางเบื้องต้นจะต้องมีการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี จากต่างประเทศมาทดแทน ซึ่งขณะนี้ ปตท.กำลังขยายคลังรับจ่ายแอลเอ็นจี จาก 5 ล้านตัน เป็น 10 ล้านตันต่อปี
ขณะเดียวกัน เพื่อยังคงรักษาระดับการผลิตก๊าซในอ่าวไทยให้ได้นานที่สุด ทางกระทรวงฯ ได้ตั้งคณะทำงานแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียมเพื่อให้สามารถพัฒนาสัมปทานแหล่ง ปิโตรเลียมแหล่งเดิมของกลุ่มเชฟรอน และ ปตท.สผ. จากที่กฎหมายปัจจุบันได้มีการต่ออายุไป 2 รอบแล้ว และไม่สามารถต่ออายุได้อีก โดยคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาประมาณ 6 เดือน
ส่วนโครงการพัฒนาในพื้นที่ร่วมไทย-มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีการผลิตก๊าซอยู่ 1.2-1.3 พันล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งเข้าไทยประมาณ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน มาเลเซียประมาณ 400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งตามข้อตกลงจะมีการแบ่งสัดส่วนก๊าซฝ่ายละครึ่ง โดยมาเลเซียจะมีการรับก๊าซเพิ่มอีก 300 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในปี 2556 ดังนั้น ก๊าซในอ่าวไทยจะหายไปในสัดส่วนที่เท่ากัน ก็จะมีการนำแอลเอ็นจีมาทดแทน แต่ต้องยอมรับว่าราคาแอลเอ็นจีก็จะสูงขึ้น
ข้อมูลจาก นสพ.โพสต์ทูเดย์ 7/1/56