สคบ.ได้รับผลตรวจสอบคุณสมบัติกะทะโคเรียคิง จาก MTEC และ กรมวิทยาศาสตร์บริการ เรียบร้อยแล้ว ระบุ กระทะดังกล่าวมีความปลอดภัย สารละลายอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ส่วนสารเคลือบ 8 ชั้นพบว่ามีสารเคลือบแต่ไม่สามารถระบุจำนวนชั้นได้
รายงานข่าวจากสำนักข่าว Voice TV รายงานว่า นายพิฆเนศ ต๊ะปวง รองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานผลการตรวจสอบคุณสมบัติกะทะโคเรียคิงจากศูนย์เทคโนโลยีและวัสดุแห่งชาติ หรือ MTEC และกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ใน 6 ประเด็นเรียบร้อยแล้ว
โดย ประเด็นที่ 1 ด้านความปลอดภัย กรมวิทยาศาสตร์บริการตรวจสอบพบว่า ปริมาณสารละลายที่ออกมาไม่ว่าจะเป็นตะกั่ว แคดเมียม ในสภาวะหุงต้มอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีความปลอดภัย 2.ทั้งสองหน่วยงานพบว่าการเคลือบหินอ่อน 8 ชั้น มีสารเคลือบจริงแต่ระบุจำนวนชั้นไม่ได้ 3. ทดสอบพบสารเทฟรอน 4. ประเด็นการทนความร้อน พบว่าด้ามจับโป่งพองเมื่ออยู่ในความร้อน 280 องศาเซลเซียล 5. นวัตกรรมไทเทเนียมยับยั้งแบคทีเรีย และ 6. ไม่ติดกะทะ สองประเด็นท้ายนี้ ทั้งสองหน่วยงานไม่มีเครื่องมือทดสอบ
ส่วนประเด็นเรื่องการลงโฆษณา ซึ่งขณะนี้ถูกระงับอยู่นั้น ผู้ประกอบการต้องรอมติของคณะกรรมการขายตรงและตลาดแบบตรง ก่อนว่าจะให้แก้ไขถ้อยคำใดบ้าง เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ก่อนจะออกโฆษณาใหม่ ควรขอความเห็นของบอร์ดขายตรงก่อน เพื่อความชัดเจน
ด้านผ้ใช้กระทะโคเรียคิง รุ่นโกลด์รายหนึ่ง พอใจ คุณภาพของกระทะ เพราะคุ้มค่ากับราคา ส่วนเรื่องเทคนิคการโฆษณา เข้าใจได้ว่า เป็นการจูงใจผู้ซื้อ
และสืบเนื่องจากประเด็นเรื่องกะทะโคเรียคิง รองเลขาธิการ สคบ. เผยด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับสมาคมนักการตลาด กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เพื่อวางกรอบแนวทางการโฆษณาตั้งราคาสินค้า โดยจะมีการประชุมนัดแรกวันที่ 30 พฤษภาคมนี้
ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้บริโภค ร้องเรียนมาที่มูลนิธิฯ เพื่อให้ดำเนินการฟ้องคดีแบบกลุ่ม จำนวน 109 ราย ซึ่งขณะนี้ ทางมูลนิธิฯ และทีมทนายความ อยู่ระหว่างรวบรวมเอกสาร หลักฐานจากผู้เสียหาย เพื่อประกอบคำฟ้อง ภายใต้กฎหมาย 2 ฉบับ คือ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และพ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง เนื่องจากพบว่า สินค้าไม่เป็นไปตามที่โฆษณา คาดว่าจะยื่นเรื่องฟ้องร้องได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้
และในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้นัดประชุมกับผู้เสียหายทั้ง 109 ราย เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการดำเนินการและเตรียมเอกสารมอบอำนาจให้มูลนิธิฯ เป็นตัวแทนดำเนินการฟ้องร้องคดี
นายทรงพล ชัญมาตรกิจ นายกสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัท วิซซาร์ด โซลูชั่น จำกัด ผู้นำเข้ากระทะโคเรียคิง นำกระทะเข้ามาจำหน่ายในราคาต่ำนั้น สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เนื่องจากได้รับการยกเว้นภาษี ภายใต้ข้อตกลงเขตการค้าเสรี หรือ เอฟทีเอ ซึ่งบริษัท วิซซาร์ด โซลูชั่น ดำเนินการนำเข้าและทำตลาดเอง โดยไม่ได้เข้าร่วมกับทางสมาคมทีวีโฮมช้อปปิ้ง
นายทรงพล ยืนยันว่า กรณีกระทะโคเรียคิง ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมธุรกิจโฮมชอปปิ้ง เพราะเป็นเรื่องของสินค้าเฉพาะแบรนด์ “โคเรียคิง” เท่านั้น โดยคาดว่าในปีนี้ มูลค่าตลาดธุรกิจโฮมชอปปิ้งจะเติบโตร้อยละ 5-10 จากปี 2559 ที่มีมูลค่า 1 หมื่น 2 พันล้านบาท
ทางด้านโคเรียคิง ได้ชี้แจงกรณีที่ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุว่าบริษัทไม่ประสงค์ที่จะร่วมเวทีเจรจาไกล่เกลี่ยความเสียหายในวันนี้ โดยขอชี้แจงว่า ทางบริษัทได้แจ้งมูลนิธิฯ ให้ส่งรายชื่อผู้บริโภคมาให้ เพื่อดำเนินการเยียวยาความเสียหาย และยืนยันพร้อมดูแลผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ เป็นอย่างดี
ข้อมูลและภาพประกอบจาก Voive TV