หลังจากที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบ ธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ให้ภาคเอกชนได้เสนอความคิดเห็นต่อร่างหลักการสำหรับประกาศคปภ. เรื่อง วิธีการออก การเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยของบริษัทประกันชีวิต/วินาศภัย และนายหน้าประกันชีวิต/ วินาศภัย พ.ศ.....และการจัดทำระบบ Do-Not-Call List หรือระบบบัญชีรายชื่อของผู้ไม่ประสงค์ได้รับการติดต่อ สำหรับการเสนอขายกรมธรรม์ประกันภัยทางโทรศัพท์ หรือเทเลมาร์เก็ตติ้ง ภายใน 10 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา > ประกันเฮ! Do-Not-Call List ลงตัว คปภ.รับดูแลระบบข้อมูลกลางเอง
จากนั้นในวันถัดมา สำนักงานคณะกรรมการ กำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ประชุมร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย ในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องนี้ด้วย โดย “สาระ ล่ำซำ” นายกสมาคมประกันชีวิตไทย เปิดเผย “สยามธุรกิจ” ว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปว่า ทางคปภ.จะเป็นตัวกลางในการดูแลฐานข้อมูลกลางของ ระบบ Do-Not-Call List ดังกล่าว
“เพื่อให้การจัดเก็บดูแลข้อมูลเป็น กลางจริงๆ ทางคปภ.จึงรับที่จะดูแลเรื่องนี้ให้ แต่การเชื่อมระบบนำส่งข้อมูลจากบริษัทประกันไปยังระบบของคปภ. อาจต้องใช้เวลาในการเซ็ต ระบบ ยังระบุไม่ได้ว่าจะสามารถใช้ได้เมื่อใด ซึ่งปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตทุกแห่งที่เปิดขายผ่านโทรศัพท์ต่างก็มีระบบ เก็บข้อมูล Do-Not-Call List ของตัวเองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าจะต้องเชื่อมต่อระบบนำไปเก็บไว้กับฐานข้อมูลกลางที่จะจัดตั้ง ขึ้นมาอย่างไรเท่านั้น”
ทั้งนี้ เมื่อมีฐานข้อมูล Do-Not-Call List กลางแล้ว ต่อไปบริษัทประกันที่ขายผ่านทางโทรศัพท์ จะต้องตรวจสอบรายชื่อกับลูกค้าที่ไม่ประสงค์จะติดต่อกับฐานข้อมูลกลางดัง กล่าวนี้ก่อน ซึ่งก็รวมถึงธนาคารที่มีการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ ด้วย หากพบว่ารายชื่อลูกค้าอยู่ในลิสต์ไม่ ประสงค์ติดต่อก็ไม่สามารถที่จะโทร.เสนอ ขายให้กับลูกค้ารายนั้นได้
อย่างไรก็ดี ระบบข้อมูล Do-Not-Call List กลาง เป็นส่วนหนึ่งของระบบฐานข้อมูลกลางการประกันภัย (Insurance Bureau) ที่คปภ.จะเป็นผู้จัดทำขึ้น โดย “ประเวช องอาจสิทธิกุล”เลขาธิการคปภ. กล่าวว่า ระบบฐานข้อมูลการประกันภัย เสมือนคลังข้อมูลด้านการประกันภัยขนาด ใหญ่ที่มีข้อมูลละเอียดลึกลงไปถึงระดับกรมธรรม์ ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของข้อ มูลด้านการประกันภัย จะช่วยเพิ่มขีดความ สามารถการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยให้มีความรวดเร็วยิ่งขึ้นในการตรวจพบ สัญญาณที่ผิดปกติในการรับประกันภัย
“เป็นการยกระดับการดำเนินกิจการ ของอุตสาหกรรมประกันภัย โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลของบริษัทประกันภัย เพื่อใช้สนับสนุนการพิจารณารับประกันภัย และการประมาณการเงินสำรองประกันภัย รวมถึงสามารถให้บริการข้อมูลการถือกรมธรรม์แก่ประชาชนผู้เอาประกันภัยได้ อย่าง แม่นยำ และรวดเร็ว”
> ใช้ฟอร์มเดียวกันโชว์ข้อมูลสินค้า เปิดคอมมิสชั่นทีละกรมธรรม์
ส่วนในเรื่องของกระบวนการปฏิบัติ ทั้งกระบวนการก่อนขาย (Pre-sale) กระ บวนการ ณ จุดขาย (Point of sale) และกระบวนการหลังการขาย (Post-sale) ซึ่งในร่างฯ กำหนดให้จัดทำเอกสารข้อมูล รายละเอียดผลิตภัณฑ์ (Fact Sheet) และผลตอบแทนที่ผู้บริโภคจะได้รับ รวมไปถึงการเปิดเผยค่าบำเหน็จนายหน้า หรือค่าคอมมิสชั่นด้วยนั้น ในส่วนของเอกสารข้อมูลรายละเอียดผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ความคุ้มครอง และข้อยกเว้นต่างๆ บริษัทประกันชีวิตทุกแห่งมีการจัดทำไว้อยู่แล้ว เพียงแต่จะนำมาปรับให้เป็นแบบฟอร์มเดียว กันเพื่อให้เป็นมาตรฐาน โดยจะนำแบบฟอร์มของต่างประเทศที่ใช้อยู่มาปรับใช้
เช่นเดียวกับเรื่องการเปิดเผยค่านายหน้า หรือค่าคอมมิสชั่น ในบางแบบประกัน เช่น กรมธรรม์ยูนิตลิงค์ ก็มีการเปิดเผยข้อมูลนี้อยู่แล้ว เพียงแต่กรม ธรรม์อื่นๆ ยังไม่มี ก็จะทำในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆ ปรับให้มีการเปิดเผยมากขึ้น ในแบบประกันชีวิตบางแบบ เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่ต้องทำความเข้าใจตรงกันทั้งคนซื้อ และคนขาย
อย่างไรก็ดี ร่างประกาศใหม่นี้ เป็น การปรับปรุงจากร่างฯ เดิมที่แก้ไขเมื่อปี 2554 โดยคุมเข้มในเรื่องของการขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ โดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าไม่ประสงค์จะให้โทรไปขาย ต้องทำบัญชี Do-Not-Call List ไว้ หากจัดทำไม่เสร็จภายในกำหนดเวลา ห้ามขาย
> หลังเข้มงวดร้องเรียนลดฮวบ คปภ.เตรียมพีอาร์ให้ความรู้ประชาชน
แหล่งข่าวจากสำนักงานคปภ.ให้ความเห็น “สยามธุรกิจ” ว่า หลังจากที่ได้ แก้ไขร่างประกาศเดิม และได้เข้มงวดกับการขายประกันผ่านโทรศัพท์มากขึ้น ก็ทำ ให้เรื่องร้องเรียนการขายผ่านช่องทางนี้ลดลงไป “เมื่อมีเรื่องร้องเรียนของการขายผ่านโทรศัพท์คปภ.จะส่งเรื่องไปยังสมาคม ประกันชีวิตไทย ซึ่งขณะนี้สังเกตได้ว่าปริมาณเรื่องที่เข้ามาเริ่มไม่เห็นแล้ว เมื่อเทียบจากเมื่อก่อนจะมีคนโทรเข้ามามาก รวมทั้งสังเกตจากการโทร.เข้ามาขาย จากเดิมจะมีเข้ามามากวันละหลายสาย แต่ตอนนี้เริ่มน้อยลงไปด้วย”
ทั้งนี้ หลังจากระบบต่างๆ จัดทำเรียบ ร้อยแล้ว และร่างฯ ดังกล่าวออกมาเป็นประกาศสมบูรณ์แล้ว ทางคปภ.จะทำการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของธุรกิจที่ดำเนินการขาย ด้วยความถูกต้องโปร่งใส
ข้อมูลจาก นสพ.สยามธุรกิจ18 ก.ย. 2555