ดันออกกม.เก็บภาษีที่ดิน "กรณ์"ลองของ ถูกท้ารบ.ไหนเสนอ"ล้ม"
ลั่นประเทศถึงเวลาต้องทำ สศช.ชี้การผลิตต่ำรอบ5ปี จาก73%ลดฮวบเหลือ61%
" กรณ์"ขอลองของ ดันร่าง กม."ภาษีที่ดิน"อีกรอบ พร้อมศึกษาภาษีมรดก อ้างถูกท้า เสนอทีไรรัฐบาลล้มทุกที สศค.แนะหลังจากนี้รายจ่ายรัฐบานทะโรค ต้องขยายฐานหารายได้เพิ่ม "บัณฑูร"ให้คลัง-ธปท.ถกให้ดี อยากเห็นดอกเบี้ยเท่าไหร่ แล้วหาวิธีการแก้ไข แบงก์พร้อมทำตามนโยบาย ท่องเที่ยวชี้เลื่อนวันหยุดยาวทำยาก
@ "กรณ์"ดันกม.ภาษีที่ดิน
เมื่อ วันที่ 22 มกราคม นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวภายหลังการรับฟังบรรยายสรุปและมอบนโยบายแก่สำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ว่า เบื้องต้น สศค.ได้รายงานถึงภารกิจเร่งด่วนที่จะดำเนินการในหลายเรื่อง อาทิ การผลักดันกฎหมายการเงินการคลัง เช่น ร่างกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ ที่จะเปิดช่องให้ผู้ประกอบการนำสินค้าทุน สินค้าคงคลังมาใช้เป็นหลักประกันในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ และการดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมายการติดตามทวงหนี้อย่างเป็นธรรม ให้รับทราบ
นายกรณ์กล่าวว่า นอกจากนี้ สศค.ยังได้เสนอเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างภาษีในระบบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น โดยเสนอร่างกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่ง สศค. รายงานว่า เสนอมาทุกรัฐบาล แต่พอถึงขั้นพิจารณาร่างกฎหมายในรัฐสภา รัฐบาลมักจะหมดอำนาจไปเสียก่อน ดังนั้น ตนเห็นว่าหากพิจารณาแล้วมีความเหมาะสมก็จะผลักดันอีกครั้ง ส่วนภาษีมรดกยังอยู่ระหว่างการศึกษาของ สศค.
"ทาง สศค.มีการท้าทายว่า ที่ผ่านมามีภาษีตัวหนึ่งเสนอเมื่อไร รัฐบาลล้มทุกที นั่นคือภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งถ้าดูแล้วเหมาะสม ผมว่าจะลองของดู ที่ผ่านมาเสนอทีไรสภาล่มตลอด แต่คิดว่าประเทศถึงเวลาที่จะพิจารณาภาษีนี้สักที ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีคงต้องรอดูข้อเสนอของ สศค.ก่อนว่าจะนำไปสู่การปฏิรูปแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เรื่องภาษีแทนที่จะแก้ทีละประเภท ก็น่าจะหยิบมาดูทั้งหมด รวมถึงการศึกษาแนวทางพัฒนาตลาดทุนให้เป็นจริงด้วย"
@ ตั้งกองทุนช่วยแรงงานนอกระบบ
นาย กรณ์กล่าวว่า สำหรับแนวทางช่วยเหลือแรงงานนอกระบบ เช่น เกษตรกร พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย กลุ่มอาชีพอิสระทั่วไป ทาง สศค.กำลังศึกษาเพื่อให้มีการตั้งกองทุนมาดูแลสมาชิกในระยะยาวเหมือนกับกอง ทุนประกันสังคม สำหรับขนาดกองทุนจะเป็นเท่าใด มีหลักการดำเนินการกองทุนอย่างไร ต้องให้ สศค.ทำการศึกษาเพื่อให้ได้ข้อสรุปอีกครั้งหนึ่ง
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ปัจจุบันแรงงานนอกระบบมีอยู่กว่า 20 ล้านคน หากมีระบบขึ้นมาดูแลในเรื่องสวัสดิการยามชราจะเป็นเรื่องที่ดี โดย สศค.มีแนวคิดที่จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการดูแลตรงนี้ เพราะมีงบประมาณเพียงพอ และที่สำคัญแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มักจะอยู่ในชนบท ทั้งนี้ ได้ฝากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังช่วยพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นภายในปี 2552 นี้ เพราะถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก
นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีนั้น สศค.ศึกษาโดยมองไปอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งประเมินว่ารายจ่ายของรัฐบาลจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและการศึกษา ดังนั้นจำเป็นต้องหารายได้เพิ่ม ทั้งภาษีประเภทใหม่และการปรับขยายฐานภาษีเดิมที่จัดเก็บอยู่แล้ว รวมถึงปรับภาษีบางประเภทเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ประเทศ อย่างไรก็ดี รายละเอียดทั้งหมด สศค.จะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาอีกครั้ง
@ หอค้าจับมือรัฐตั้งกก.แก้ส่งออก
ที่ หอการค้าไทย นายศิริพล ยอดเมืองเจริญ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับคณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการ ค้าแห่งประเทศไทย นำโดยนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานหอการค้าไทย ถึงสถานการณ์เศรษฐกิจและปัญหาที่เอกชนต้องการให้ภาครัฐให้การช่วยเหลือ
หลัง การหารือ นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมหอการค้าไทยกับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อทำงานร่วมในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้า โดยภารกิจเร่งด่วนคือ การดูแลการส่งออกที่ติดลบต่อเนื่องสองเดือนและอาจส่งผลต่อการส่งออกในปี 2552 รวมถึงการจัดทำศูนย์เตือนระวังล่วงหน้า เพื่อแจ้งภัยล่วงหน้าถึงปัญหาหรือการใช้เงื่อนไขที่ไม่ใช่ภาษีของประเทศผู้ นำเข้าจนกระทบต่อการส่งออกไทย รวมทั้งได้หยิบยกเรื่องการลักลอบนำเข้าข้าวโพด ซึ่งการห้ามเพาะปลูกหรือชะลอการนำเข้าคงทำได้ยาก ต้องมีการวางแผนและดูแลการนำเข้าให้รัดกุม ไม่ให้ผลผลิตล้นตลาดจนเกษตรกรในประเทศเดือดร้อน
@ จี้เพิ่มงบฯโรดโชว์ตลาดใหม่
นาย สมเกียรติ อนุราษฎร์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า เอกชนเสนอให้กระทรวงพาณิชย์เพิ่มงบฯส่งเสริมการส่งออก และให้ความสำคัญกับการจัดโรดโชว์ในตลาดรองและตลาดใหม่ โดยเฉพาะตลาดยุโรปตะวันออก โดยเอกชนยังมองว่าตลาดส่งออกยังมีอยู่ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรและอาหารที่ยังขยายตัวได้ดี แต่ต้องได้รับการสนับสนุน
นาย ศิริพลกล่าวว่า จะมีการจัดทำยุทธศาสตร์การค้าชายแดน เพื่อใช้ประโยชน์จากการค้าชายแดนมากขึ้น โดยส่งเสริมและป้องกันอุปสรรคต่างๆ นอกจากนี้ เอกชนได้เสนอเข้มงวดมาตรการดูแลการนำเข้าสินค้าเกษตรตามกรอบความตกลงการให้ สิทธิพิเศษทางภาษีและสัญญาคอนแทรคฟาร์มมิ่งกับประเทศติดชายแดนเป็นพิเศษใน ช่วงรับจำนำ เพื่อไม่เกิดปัญหาการลักลอบและสวมสิทธิข้าวโพดในปัจจุบัน
นาย ยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ในวันที่ 26 มกราคมนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มีนางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน เพื่อพิจารณานำข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลังเป็นบัญชีควบคุม และใช้มาตรการห้ามเคลื่อนย้ายก่อนได้รับอนุญาต เหมือนข้าว ปาล์มน้ำมัน และกระเทียม
@ การผลิตลดลงต่ำสุดรอบ5ปี
นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวถึงการส่งออกเดือนธันวาคม 2551 ที่ติดลบ 14.6% ว่า คาดการณ์กันไว้แล้วว่า ผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกจะทำให้การส่งออกสินค้าของไทยลดลงหลายรายการ โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ และปิโตรเคมี ซึ่งทุกประเทศประสบปัญหาเหมือนกันหมด โดยปัญหาเศรษฐกิจได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการใช้กำลังการผลิตที่ล่าสุดปรับลด ลงมาอยู่ที่ 61.2% จากเดิม 73.1% ลดมากที่สุดในรอบ 5 ปี ซึ่งมีผลโดยตรงต่อภาคแรงงาน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการปรับลดเวลาทำงาน หรือลดค่าจ้างแรงงาน หากรัฐบาลไม่ออกมาตรการมาแก้ปัญหาเลย โดยเฉพาะการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อาจทำให้แรงงานมีรายได้หายไป 5-9 หมื่นล้านบาท จากปกติที่แรงงานมีรายได้ 6 แสนล้านบาทต่อปี
@ ให้คลัง-ธปท.คุยกันเอง"ดบ."
นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดส่วนดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากว่า ถ้าภาครัฐเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยขณะนี้ไม่เหมาะสม การลดดอกเบี้ยนโยบายมีผลต่อการชี้นำดอกเบี้ยไม่เป็นอย่างที่รัฐบาลต้องการ ก็ต้องเข้ามาดูความสมดุล ซึ่งมีวิธีการจัดการ คือ 1.ให้ธนาคารัฐนำทางลดดอกเบี้ยเงินกู้ เพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก แล้วดูว่าตลาดจะตามหรือไม่หากโดนธนาคารรัฐกดดัน เพราะในตลาดเสรี หากระบบมีปัญหา รัฐก็ต้องเข้ามาดูแล 2.กำหนดอัตราดอกเบี้ยไปเลย ซึ่งต้องคิดให้ดี เพราะเกี่ยวข้องกับกลไกตลาด
"โจทย์นี้ทั้งคลังและ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ต้องถกกันว่า ราคาที่ความเหมาะสมควรจะอยู่ตรงไหน ระบบเสรีไม่ใช่คำตอบเสมอไป เพราะไม่มีอะไรที่เสรี 100% หรือรัฐบาลดูแลทั้ง 100% เช่น สหรัฐอเมริกา เมื่อมีปัญหารัฐบาลก็ต้องเข้ามาแทรกแซงเช่นกัน ซึ่งขณะนี้รัฐยังไม่แทรกแซง แต่แทรกแซงด้วยคำพูดก่อน ต้องคิดให้ดีว่าจะแทรกแซงตรงไหน และแทรกแซงให้ดี สถาบันการเงินพร้อมปฏิบัติตามนโยบายอยู่แล้ว" นายบัณฑูรกล่าว (อ่านรานละเอียด น.2)
@ "กรณ์"ให้แบงก์ร่วมรับผิดชอบ
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ข้อเสนอให้ธนาคารพาณิชย์ลดส่วนต่างดอกเบี้ยเป็นการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับ ความเหมาะสม ระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของไทยที่ยังอยู่ใน ระดับสูง แต่จะลดหรือไม่ ขึ้นกับการพิจารณาของธนาคารพาณิชย์ เพียงแต่ส่วนต่างที่สูงจะกระทบต่อลูกค้าของธนาคารเอง ส่วนสถาบันการเงินของรัฐ มีบทบาทได้เพียงบางส่วน เพราะส่วนแบ่งตลาดส่วนใหญ่เป็นของธนาคารพาณิชย์เอกชนไม่กี่แห่ง เรื่องนี้ทุกคนต้องร่วมกันรับผิดชอบ ไม่ใช่รอให้คนอื่นทำก่อน
@ ชี้เลื่อนวันหยุดต่อเนื่องทำยาก
นาย อภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวถึงมาตรการเลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ให้ต่อเนื่องกับวันหยุดเสาร์ -อาทิตย์ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวว่า หากทำได้จริงจะช่วยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศได้ในระดับหนึ่ง แต่ต้องมีวันหยุดต่อเนื่องอย่างน้อย 5 วัน อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวทำได้ยาก เพราะวันหยุดนักขัตฤกษ์ส่วนใหญ่เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญทางศาสนา ที่กำหนดวันไว้แน่นอน อาจจะเลื่อนไม่ได้
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจนำเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้เลื่อนวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่อเนื่องกับวันหยุดปกติ เพื่อให้เกิดวันหยุดยาว เนื่องจากวันหยุดส่วนใหญ่เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับศาสนา ซึ่งจะต้องมีการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับวันนั้น จะเลื่อนเป็นวันอื่นไม่ได้ แม้การหยุดยาวจะส่งผลดีกับการท่องเที่ยว แต่เป็นช่วงปีใหม่และสงกรานต์ก็เพียงพอแล้ว หากหยุดหลายครั้งจะกระทบกับเรื่องของการจ้างงานระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง ด้วย
วันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11276
มติชนรายวัน