จากกรณีที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข มีคำสั่งปิดโรงพยาบาลเดชา ชั่วคราว เนื่องจากมีปัญหาไม่สามารถให้บริการสาธารณสุขได้อย่างมีมาตรฐานตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข และทางคณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชนแถลงข่าวให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปฏิรูประบบการบริหารงานนั้น
เมื่อเร็วๆ นี้ สปส.แจ้งแนวปฏิบัติกรณีผู้ประกันตนที่ใช้สิทธิประกันสังคมที่โรงพยาบาลเดชา ไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่น ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม - 15 มิถุนายน โดยให้ผู้ประกันตนหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการยื่นขอรับค่าบริการทางการแพทย์คืนตามอัตราที่กำหนดจาก สปส.ได้ทันที
นายโกวิท สัจจวิเศษ เลขาธิการ สปส. เปิดเผยว่า ในกรณีผู้ประกันตนของโรงพยาบาลเดชาเข้ารับบริการทางการแพทย์ที่สถานพยาบาลอื่น ระหว่างวันที่ 11 พฤษภาคม 2559 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2559 มีแนวทางปฏิบัติ ดังนี้
ในกรณีโรงพยาบาลเดชาได้ส่งตัวผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาต่อเนื่องตามนัด ณ สถานพยาบาล ที่มีศักยภาพสูงกว่าไปแล้ว ให้ผู้ประกันตนติดต่อสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิใหม่ หากสถานพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิใหม่ไม่สามารถส่งตัวผู้ประกันตนไปรักษาพยาบาล ณ สถานพยาบาลตามนัดเดิม และเห็นว่าผู้ประกันตนควรได้รับการรักษาต่อเนื่องทันท่วงที ให้ผู้ประกันตน/สถานพยาบาลที่ให้บริการทางการแพทย์ ยื่นคำขอรับค่าบริการทางการแพทย์คืนจาก สปส.ตามหลักฐาน ดังนี้
-ใบเสร็จรับเงินต้นฉบับ/ใบสรุปการรักษาพยาบาลช่วงเวลาที่ขอรับเงินค่าบริการทางการแพทย์ (กรณีสถานพยาบาลเป็นผู้ยื่นคำขอฯ)
-ใบรับรองแพทย์
-สำเนาใบนัดของโรงพยาบาลที่ให้การรักษาและหลักฐานที่แสดงว่าโรงพยาบาลเดชาเป็นผู้ส่งตัวไปรักษาพยาบาล โดยจะต้องเป็นการนัดหมายในช่วงเวลานับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2559 ถึงวันที่ 15 มิถุนายน 2559 เท่านั้น
-สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร)
อย่างไรก็ตาม สปส.จะรวบรวบเอกสารหลักฐานดังกล่าว เพื่อเสนอคณะกรรมการการแพทย์เพื่อพิจารณาจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ให้แก่ผู้ประกันตน/สถานพยาบาลที่ให้บริการแพทย์ ตามอัตราที่ สปส.กำหนดต่อไป หรือมีปัญหาข้อสงสัยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร. 1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต