สปสช. เตรียมบรรจุ “วัคซีนเอชพีวี” ป้องกันมะเร็งปากมดลูกเข้าสิทธิประโยชน์บัตรทองปี 2560 ฉีดในเด็ก ป.5 - 6 ครอบคลุมทั้งประเทศ แจงเลื่อนโครงการนำร่องวัคซีนไม่เกี่ยวขาดงบประมาณ เหตุข้อมูลนำร่อง 1 จังหวัดเพียงพอต่อการตัดสินใจ
รายงานจาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ รายงานว่า นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในระยะ 3 - 4 ปีที่ผ่านมา สปสช. ร่วมกับกรมควบคุมโรค (คร.) ติดตามความก้าวหน้าทางวัคซีนและรับข้อเสนอจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงประสิทธิผลและความคุ้มค่าของวัคซีนใหม่ หรือที่ยังไม่มีใช้ในประเทศ เพื่อบรรจุในชุดสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2560 สปสช. ได้เตรียมการที่จะขยายสิทธิประโยชน์ด้านวัคซีนสำหรับเด็กเพิ่มเติม โดยวัคซีนที่อยู่ในแผนและหลายฝ่ายให้การสนับสนุน คือ “วัคซีนเอชพีวี” หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ให้ข้อมูล และแนะนำว่า มีประสิทธิผลในการป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยการฉีดวัคซีนเพียง 2 เข็ม จากเดิมที่ต้องฉีดถึง 3 เข็ม และให้ฉีดในเด็กนักเรียน ป.5 และ ป.6 ทำให้ทุ่นค่าใช้จ่ายลงได้
“ในปี 2558 กรมควบคุมโรคได้ดำเนินงานโครงการนำร่องการให้บริการวัคซีนป้องกันเอชพีวีในนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งหาก สปสช. ดำเนินการทั้งประเทศ คาดว่า ราคาวัคซีนดังกล่าวจะลงมาได้อีก ทำให้อยู่ในวิสัยที่จะของบประมาณสนับสนุนในปี 2560 ได้ สำหรับวัคซีนตัวอื่น เช่น วัคซีนฮิบ (HIB) ป้องกันโรคปอดอักเสบ และวัคซีนโรตา ป้องกันโรคอุจจาระร่วง เป็นต้น สปสช. อยู่ระหว่างการติดตามข้อมูลเพิ่มเติมอยู่” นพ.ประทีป กล่าวและว่า สำหรับข่าว สปสช. ไม่ได้เตรียมงบประมาณในปี 2559 เป็นเหตุให้ต้องเลื่อนโครงการนำร่องให้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกที่จะขยายจาก 1 จังหวัดเป็น 10 จังหวัด ยืนยันว่า ไม่ได้เกี่ยวกับการขาดงบประมาณแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะโครงการนำร่องให้วัคซีนมะเร็งปากมดลูก 1 จังหวัดของกรมควบคุมโรคได้ให้ข้อมูลเพียงพอต่อการตัดสินใจแล้ว และหากจะขยายการนำร่องในจังหวัดอื่น ๆ เพิ่มเติมก็ไม่ได้ข้อมูลเพิ่มมากนัก ทั้งยังต้องใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีก ทางกรมควบคุมโรคจึงเห็นว่าน่าจะคอยไว้ขยายให้ครอบคลุมทั่วประเทศในปี 2560 ตามแผนที่กำหนดไว้กับ สปสช.
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์11 ตุลาคม 2558