บริการสุขภาพ

ชี้ “บัตรทอง” ให้สิทธิการรักษาทุกคน เรียกร้องทุกฝ่ายผลักดันบริการมาตรฐานเดียว

news pic 26052020 universalhealthcoverageservice 1

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ชี้ “บัตรทอง” ให้สิทธิการรักษาทุกคน เรียกร้องทุกฝ่ายผลักดันบริการมาตรฐานเดียว พร้อมเร่งสร้างระบบสวัสดิการทางสังคม ขณะที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มอง การที่คนแห่ไปบริจาคเป็นภาพสะท้อนว่าคนไม่เชื่อมั่นในระบบการบริการสุขภาพของไทย แนะรัฐช่วยทุกคนเข้าถึงการรักษาอย่างมีคุณภาพ ฝากเตือนก่อนบริจาคควรตรวจสอบให้ครบถ้วนรอบด้าน

          จากกรณีที่มีข่าวหญิงสาวรายหนึ่งขอรับบริจาค โดยอ้างว่าลูกป่วยด้วยโรคที่หายาก จนได้รับเงินบริจาคจากประชาชนจำนวนมาก และปรากฏในข่าวว่าอาจมีการทำร้ายเด็กเพื่อนำมาใช้เป็นข้ออ้างขอรับเงินนั้น

          วันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2563) กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ ได้ออกมาชี้แจงให้ประชาชนและหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง โดยระบุว่า ปัจจุบันระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เป็นระบบรักษาพยาบาลที่รองรับสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่ไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลในระบบอื่นๆ โดยทุกคนจะได้รับการขึ้นทะเบียนสิทธิการรักษาตามทะเบียนบ้านกับหน่วยบริการที่ใกล้บ้านที่สุด ซึ่งระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาตินั้นมีระบบที่ชัดเจน ตั้งแต่การขึ้นทะเบียน การขอย้ายสิทธิ โดยที่สิทธิประโยชน์รองรับการรักษาโรคทุกโรคตามมาตรฐาน ทั้งนี้ ในแต่ละปีสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จะมีการรับฟังความเห็นเพื่อนำมาใช้ปรับปรุงและพัฒนาระบบหลักประกันฯ ให้ครอบคลุมมากที่สุด ดังนั้น ขอให้ประชาชนทุกคนตรวจสอบสิทธิการรักษาของตัวเอง ด้วยการโทรสอบถามที่สายด่วน สปสช. โทร 1330

          อย่างไรก็ตาม กรณีการขอรับเงินบริจาคนี้เป็นบทเรียนให้ทุกคนได้ทบทวนความเชื่อทางการเมืองต่อบทบาทของรัฐในการจัดสวัสดิการพื้นฐานถ้วนหน้าที่จำเป็น โดยเน้นแนวคิด “สิทธิพื้นฐาน” จากระบบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินที่ได้มาจากประชาชนทุกคนผ่านการเสียภาษีทุกรูปแบบ แต่ที่ผ่านมารัฐไทยยังขาดเจตจำนงในด้านนี้ โดยวิสัยทัศน์ของผู้กำหนดนโยบายมักมองเรื่องสวัสดิการถ้วนหน้าเป็นภาระและเลือกให้สิทธิกับเฉพาะคนบางกลุ่มที่รัฐมองว่ายากไร้ ด้วยการสร้างระบบตรวจสอบที่ยุ่งยาก อย่างเช่น ปรากฏการณ์เงินเยียวยาช่วยเหลือจากผลกระทบโควิด - 19 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า ระบบการให้แบบการกุศล หรือ เลือกให้ นอกจากจะใช้งบประมาณในการตรวจสอบมหาศาลแล้ว ยังสร้างความแบ่งแยกในหมู่ประชาชน และทำให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยชัดเจนยิ่งขึ้น

          ทั้งนี้ กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพจึงต้องการให้กรณีนี้เป็นบทเรียนของสังคมไทยว่าถึงเวลาแล้ว ที่เราต้องผลักดันให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การสร้างรัฐสวัสดิการพื้นฐานถ้วนหน้าที่จำเป็นเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมต่อการได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานที่จำเป็นของประชาชน และที่สำคัญต้องช่วยกันผลักดันให้เกิดระบบสุขภาพมาตรฐานเดียวสำหรับทุกคน โดยติดตามดูแลรักษาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นระบบรัฐสวัสดิการเพียงเรื่องเดียว ที่เป็นไปตามเจตจำนงของการสร้างสวัสดิการถ้วนหน้า

          ขณะที่ สารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการบ่ายโมงตรงประเด็นทางช่อง Thai PBS เมื่อวันนี้ ว่า ภาพของการรับบริจาคเพื่อนำเงินไปรักษาตัวในหลายกรณีถือว่าสร้างอารมณ์ร่วมให้กับสังคมไทยได้เป็นอย่างมาก จนทำให้มีผู้คนที่จิตใจเอื้อเฟื้อเข้ามาช่วยเหลือกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว ซึ่งสิ่งนี้กำลังสะท้อนถึงความไม่เชื่อมั่นบางอย่างในระบบการบริการสุขภาพของไทย เพราะการที่คนแห่ไปบริจาคเป็นภาพสะท้อนที่ค่อนข้างชัดว่าคนยังเชื่อว่าการให้เงินมากๆ ช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ในความเป็นจริงคนที่ป่วยควรเข้าถึงการรักษาได้ผ่านระบบบัตรประกันสุขภาพ หรือ บัตรทอง ได้ ดังนั้น ถึงเวลาที่ภาครัฐควรทบทวนการสร้างระบบการบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานเดียวให้เกิดขึ้นได้จริงๆ

          "คนจำนวนมากต้องการให้มีระบบบริการสุขภาพที่มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะเชื่อว่าเวลาที่เราป่วย เราก็ต้องการบริการที่ดีที่สุด หากรัฐทำให้เกิดมาตรฐานเดียวกันขึ้นมาเมื่อไร คำถามต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น ทำไมคนนั้นได้บริการที่ดีกว่าเรา เหล่านี้ก็จะหายไปทันที ไม่ว่าจะตัวเรา หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรี ก็จะได้รับบริการสุขภาพในมาตรฐานเดียวกัน และก็จะกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนมั่นใจว่าเมื่อไปใช้บริการ ก็จะได้บริการสุขภาพที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกคน นี่คือสิ่งที่ทุกคนพึงปรารถนา” เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าว

          เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวอีกว่า อีกประเด็นที่ควรพิจารณาด้วยเช่นเดียวกัน คือ การบริจาคควรจะเป็นเรื่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจของคนนั้นมากกว่าที่เขาอาจจะไม่ได้ทำงาน หรือ รักษาตัวจนตกงาน แต่ว่าต้องไม่ใช่การบริจาคเพื่อทำให้เกิดการรักษาพยาบาล เนื่องจากประเทศไทยก็มีระบบหลักประกันสุขภาพอยู่ ดังนั้น ควรช่วยกันผลักดันให้ระบบบริการสุขภาพตอบสนองต่อความต้องการของทุกคนในมาตรฐานเดียวกันด้วย

          อย่างไรก็ตาม เราไม่สามารถที่จะปิดกั้นการบริจาคได้ แต่ต้องเน้นย้ำว่า ก่อนที่จะบริจาค ประชาชนควรจะพิจารณาการบริจาคให้ครบถ้วนให้รอบด้าน และควรที่จะบริจาคกันอย่างพอเหมาะ พอควร รวมถึงต้องตรวจสอบเรื่องราวที่มาที่ไปของคนที่จะบริจาคให้ รวมถึงข้อสังเกตต่างๆ ให้รู้เท่าทันการรับบริจาคด้วย

Tags: หลักประกันสุขภาพ, กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ , บัตรทอง, มาตรฐานเดียวกัน, บริการสุขภาพ, เจ็บป่วย, การบริจาค, มูลนิธิเพื่อผูับริโภค, สิทธิการรักษา

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน