(22 ก.พ. 2560) ภาคีเครือข่ายประกันสังคมนำโดย นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.)ได้เข้าพบปลัดกระทรวงแรงงาน การเข้าพบครั้งนี้ทางเครือข่ายฯได้แสดงความชื่นชมความก้าวหน้าในการเพิ่มสิทธิประโยชน์การทำฟัน อุด ถอน ขูด และผ่าฟันคุดจากเดิม 600 บาทเพิ่มเป็น 900 บาทตามค่าใช้จ่ายจริง และล่าสุดการเปิดให้ผู้ประกันตนสามารถเข้าไปใช้บริการในรพ.และคลินิกกว่า 535 แห่งโดยไม่ต้องสำรองเงินจ่ายก่อน
นายมนัส โกศล กล่าวว่า “การพัฒนาสิทธิประโยชน์ด้านทันตกรรมครั้งนี้ของประกันสังคมทำได้ดีรวดเร็ว ต้องชื่มชมสำนักงานประกันสังคมและกระทรวงแรงงานที่คำนึงถึงสิทธิของผู้ประกันตน จากการสอบถามผู้ประกันตนที่ไปใช้บริการพบว่า ส่วนใหญ่พอใจมากโดยเฉพาะการที่ไม่ต้องสำรองจ่ายเงินไปก่อน เพราะที่ผ่านมาหลายคนไม่เคยไปทำฟันเลย เพราะกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งราคาค่าทำฟันและเรื่องต้องหาเงินมาสำรองจ่าย ส่งผลให้ผู้ประกันตนจำนวนมากเข้าไม่ถึงการทำฟัน”
“จากนี้ไปต้องมีการติดตามผลทั้งด้านการเข้าถึงและคุณภาพในการรับบริการ ว่าเป็นไปตามแนวทางอย่างมีคุณภาพหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องราคาค่าบริการว่าจะมีการควบคุมหรือกำหนดราคาที่เป็นมาตรฐานได้อย่างไร ซึ่งต้องยอมรับว่าหลังจากมีการเพิ่มสิทธิ์เป็น 900 บาท พบว่ามีสถานบริการบางแห่งได้ขึ้นราคาค่าบริการ ในขณะเดียวกันทุกวันนี้เรายังพบว่าค่าบริการทันตกรรมในแต่ละแห่งยังมีความแตกต่าง เป็นภาระที่ผู้ประกันตนต้องค้นหาหรือต้องสอบถามราคาเอาเองก่อนใช้บริการ บางแห่งก็ไม่ได้ติดป้ายราคาไว้” นายมนัสกล่าว
ด้าน ทพญ.มาลี วันทนาศิริ ผู้ประสานงานเครือข่าย ฟ.ฟันสร้างสุข กล่าวว่า “จากการสอบถามทันตแพทย์ที่ให้บริการทั้งในคลินิกเอกชนและรพ.พบว่า ทันตแพทย์ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอย่างมากต่อการปรับระบบไม่ต้องสำรองจ่าย สังเกตได้ว่ามีผู้ประกันตนเดินเข้ามาขอรับบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ส่วนด้านการบริหารจัดการยังพบว่ามีความขัดข้องบ้างเนื่องจากระบบการเบิกจ่ายที่คีย์ผ่านทางออนไลน์ยังไม่สะดวก มีเวลาปิดระบบซึ่งคลินิกหลายแห่งยังเปิดให้บริการทำให้เข้าไปเช็คสิทธิในระบบไม่ได้ หากขยายเวลาหรือทำให้ออนไลน์ได้ตลอดจะทำให้ผู้รับบริการและผู้ให้บริการมีความสะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งเรื่องความซ้ำซ้อนที่ต้องจัดทำเอกสารส่งสำนักประกันสังคมเป็นการเพิ่มภาระผู้ให้บริการ หากสามารถจัดการเบ็ดเสร็จผ่านระบบออนไลน์ได้จะทำให้สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น”
ในการเข้าพบครั้งนี้ทางเครือข่ายฯ ได้เสนอให้กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมพิจารณาสิทธิด้านทันตกรรมให้มีความเท่าเทียมกับระบบสิทธิการรักษาอื่น โดยเสนอให้ผู้ประกันตนมีสิทธิในการเข้ารับบริการตามจริงโดยไม่ต้องสำรองจ่ายตามราคากลางที่สำนักงานฯกำหนด เพิ่มบริการฟันเทียมแบบถอดได้ตามความจำเป็นโดยไม่ต้องสำรองจ่าย และเสนอเพิ่มการตรวจสุขภาพช่องปากประจำปีทั้งในสถานบริการของรัฐและเอกชนหรือจัดเป็นหน่วยบริการเคลื่อนที่ ซึ่งเป็นไปตามพ.ร.บ.ประกันสังคมฉบับใหม่ที่ได้กำหนดให้มีการส่งเสริมป้องกันโรคแก่ผู้ประกันตนไว้
นอกจากนี้ยังเสนอให้กระทรวงแรงงานและสำนักงานประกันสังคมเป็นเจ้าภาพในการปรึกษาหารือกับทันตแพทย์สภาต่อกรณีการกำหนดราคาค่ารักษาทันตกรรมที่เป็นธรรม . และเสนอให้จัดตั้งกองทุนทันตกรรมสำหรับผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเพื่อเป็นกองทุนสำหรับการรักษาทางทันตกรรมของผู้ประกันตน เพื่อลดปัญหาการเข้าไม่ถึง สร้างความเท่าเทียมในสิทธิประโยชน์โดยไม่ต้องสำรองจ่ายด้วย