เมื่อวัน 6 ก.พ.54 ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน จัดงานเปิดตัวและแถลงข่าวในเรื่องการจ่ายซ้ำซ้อนเพื่อการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตน ณ สมาคมนักข่าว นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นำโดย นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค นายนิมิตร์ เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ และนางสาวสุภัทรา นาคะผิว ผู้อำนวยการมูลนิธิคุ้มครองสิทธิด้านเอดส์
เดิมทีนั้นระบบหลักประกันสุขภาพของไทยจำแนกเป็นระบบใหญ่ๆ ได้ 3 ส่วน คือ ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และระบบสวัสดิการข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ใช้งบประมาณจากภาษีอากร ยกเว้น ระบบประกันสังคมที่ผู้ประกันตนและนายจ้างร่วมจ่าย ซึ่งถือเป็นความซ้ำซ้อนที่ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมต้องสมทบเพื่อให้ได้ สิทธิการรักษาพยาบาลเอง รวมทั้งต้องจ่ายภาษีอีกด้วย ในขณะที่ กลุ่มอื่นที่ไม่ใช่ผู้ประกันตนมีสิทธิรักษาพยาบาลโดยไม่ต้องร่วมจ่ายเงิน สมทบ
ประเด็นหลักที่ทางชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตนต้องการเรียกร้อง คือการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนนั้นรัฐบาลควรผู้รับผิดชอบเต็ม 100% เช่นเดียวกับประชาชนที่อยู่ในระบบประกันสุขภาพกลุ่มอื่นๆ และให้ทุกคนมี สิทธิเข้ารับการรักษาพยาบาลเช่นเดียวกับประชาชนที่ใช้ระบบประกันสุขภาพถ้วน หน้า ส่วนเงินสมทบประกันสังคมเพื่อกรณีเจ็บป่วยซึ่งคิดเป็น 1% ใน ใน 5% ของเงินเดือนที่ผู้ประกันตนสมทบในระบบประกันสังคมนั้น ควรถูกนำไปรวมเพิ่มในกรณีอื่นๆ ที่จำเป็น เช่น กรณีชราภาพ ซึ่งการเพิ่มเงินออมในส่วนนี้จะทำให้ผู้ประกันตนได้รับเงินบำเหน็จ หรือบำนาญเพิ่มขึ้น เมื่อสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน
นางสาวสารี ในฐานะโฆษกชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน กล่าวว่า การให้บริการของประกันสังคมที่มีผู้ประกันตนราว 9.4 ล้านคน ที่จ่ายเงินเข้ากองทุนฯ และขณะนี้มีปัญหา ทั้งในเรื่องความเป็นธรรมในการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตน และการบริหารจัดการ โดยมีผู้ประกันตนมาร้องเรียนกับมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคหลายประเด็น เช่น คุณภาพการรักษาพยาบาลเกี่ยวกับการเยียวยาค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรักษา, การจ่ายเงินล่วงหน้าสำหรับลูกจ้างที่ประสบอุบัติเหตุ ที่มีกระบวนการและระยะเวลาเบิก ซึ่งสามารถเข้ารักษาแบบฉุกเฉินปีละ 2 ครั้ง, ขั้นตอนในการตรวจสอบสิทธิใช้เวลานาน, ไม่รับประกันอุบัติเหตุนอกเวลางาน, ระบบรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ประกันตน และปัญหากับผู้ป่วยโรคเรื้อรังโรคเรื้อรัง
ต่อคำถามเรื่องการขับเคลื่อนทางกฎหมาย นางสาวสารี กล่าวว่า ขณะนี้ร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคมที่มีการเสนอแก้ไขนั้น อยู่ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายฯ สภาผู้แทนราษฎร และทางชมรมฯ กำลังจะทำการยื่นข้อเสนอของทางกลุ่มเพิ่มเติมต่อคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตนได้เปิดหน้า facebook (คลิกที่นี่เพื่อดู) ประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าในการติดตามเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม และมีการเชิญชวนผู้ประกันตน เข้าสมัครสมาชิกแรกเริ่มในสมาคมผู้ประกันตน เพื่อร่วมเปลี่ยนระบบประกันสังคมให้เป็นประโยชน์กับผู้ประกันตนมากที่สุด ในส่วนโครงสร้างของชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตนประกอบด้วยประธาน คือ นายไพโรจน์ พลเพชร เลขาธิการสมาคมสิทธิเสรีภาพประชาชน มีนายนิมิตร์ เทียนอุดม ทำหน้าที่เลขา และนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ทำหน้าที่โฆษก
ทั้งนี้ จากข้อมูลของชมรมพิทักษ์สิทธิผู้ประกันตน ระบบหลักประกันสุขภาพ 3 ระบบใหญ่ที่ประเทศไทยใช้อยู่ในปัจจุบัน แบ่งการดูแลออกเป็น 1.ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดูแลคนที่มีสัญชาติไทย ประมาณ 47 ล้านคน ใช้งบประมาณจากภาษีอากร ในปี พ.ศ.2553 ประมาณ 1 แสนล้านบาท 2.ระบบประกันสังคม ดูแลผู้ประกันตน ประมาณ 9 ล้านคน โดยผู้ประกันตนสมทบ ร่วมกับนายจ้างและรัฐ ใช้งบประมาณในปี พ.ศ.2552 ในส่วนค่ารักษาพยาบาลประมาณ 4 หมื่น 4 พันล้านบาท และ 3.ระบบสวัสดิการข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ครอบคลุมผู้มีสิทธิประมาณ 5 ล้านคน ใช้งบประมาณจากภา ษีอากร ปี 53 ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท