เครือข่ายประชาชน ออกแถลงการณ์ยืนยันกฎหมายฉบับนี้ ทำให้แพทย์(ผู้ให้บริการ) มั่นใจในการให้บริการ เพราะหากผิดพลาดมีกลไกรับภาระแทน คนไข้ก็ไม่ต้องฟ้องร้องเพราะได้รับการชดเชยแล้ว ยืนยันชุมนุมวันอังคารที่ 5 ตุลาคม นี้แน่นอน นัดพร้อมกัน เวลา 8 โมงเช้าหน้าทำเนียบรัฐบาล ขอเชิญชวนประชาชน ร่วมรณรงค์/ชุมนุม เพราะกฎหมายฉบับนี้ ช่วยทั้งแพทย์และประชาชนเป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย

ในแถลงการณ์ระบุว่าขณะนี้มีประชาชนเครือข่ายต่าง ๆ ตอบรับแล้วไม่น้อยกว่า 3,000 คน จากทั่วประเทศ พร้อมเรียกร้องโรงพยาบาลเอกชน ต้องหยุดอยู่เบื้องหลังการคัดค้าน และเรียกร้องแพทย์ที่คัดค้านต่อสู้ด้วยเหตุผล หยุดบิดเบือน ใส่ร้าย และยอมให้กฎหมายได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

รัฐบาลต้องจริงใจ กล้าตัดสินใจในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับประชาชน หยุดซื้อเวลา ต้องผลักดันให้มีการพิจารณากฎหมายคุ้มครองผู้เสียหายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมในสังคม

กฎหมายฉบับนี้ ยึดหลักการไม่เพ่งโทษของผู้ประกอบวิชาชีพที่ให้บริการ แต่ยอมรับว่า ความผิดพลาด ความบกพร่องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งจากผู้ประกอบวิชาชีพ และจากระบบบริการสาธารณสุขที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น ความเชี่ยวชาญของแพทย์ที่จบใหม่ ปัญหาการขาดแคลนแพทย์ การกระจายของแพทย์ที่ยังไม่ดี การขาดแคลนอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ต่าง ๆ

ดังนั้นจึงไม่ให้ความสำคัญกับการพิสูจน์ว่าใครถูกใครผิด หรือเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพหรือไม่ แต่เน้นพิสูจน์ ว่า มีความเสียหายเกิดขึ้นจริงจากการรับบริการหรือไม่ แม้แต่กรณีการรักษาที่ได้มาตรฐานแต่มีความเสียหายเกิดขึ้นจริง เช่น กรณีผ่าตัดเลาะผังพืดในท้องแล้วพลาดไปโดนท่อไต ทั้ง ๆ ที่ทำเต็มที่แล้ว ในทางวิชาการก็ยอมรับว่าเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ไม่ถือเป็นความผิด หรือประมาท (Acceptable adverse effect)

นอกจากนี้การกล่าวหาว่าจะมีผู้แทนภาคประชาชนหาประโยชน์จากกองทุนเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะผู้แทนภาคประชาชน มีเพียง 3 คนจากจำนวน 17 คน หรือแม้แต่ในบทเฉพาะการที่มีจำนวน และสำนักงานกองทุน ภายใต้กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้รับผิดชอบ และไม่มีใครสามารถใช้เงินกองทุนเพื่อประโยชน์ส่วนตัว

พร้อมทั้งเชิญชวนประชาชนที่ต้องการสนับสนุนร่วมชุมนุม ในวันที่ 5 ตุลาคม เวลา 08.00 น. หน้าทำเนียบรัฐบาล เพราะกฎหมายฉบับนี้ ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์ เสมอภาคกัน