บริการสุขภาพ

แถลงการณ์ เครือข่ายผู้บริโภค ยืนยัน กฎหมายคุ้มครองผู้ป่วยที่เสียหาย เพื่อลดการฟ้องร้องแพทย์

เครือข่ายผู้บริโภค ยืนยัน กฎหมายคุ้มครองผู้ป่วยที่เสียหาย  เพื่อลดการฟ้องร้องแพทย์
เรียกร้องแพทยสภาต้องพูดความจริง
ถามใจโรงพยาบาลเอกชนไม่กล้าเปิดเผยตัวเลขรายได้หรือ
วอนสาธารณชนศึกษากฎหมายอย่างถ่องแท้ อย่าถูกปั่นจนตระหนก
เปิดสภาผู้ป่วย 24-25 สิงหาคมนี้


เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ประเทศไทย เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ชมรมผู้ป่วยโรคไต เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพภาคประชาชน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.)  ยืนยัน ”ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...” ซึ่งกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในสมัยประชุมหน้า (เดือนสิงหาคม) เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์และคนไข้ โดยจะช่วยไม่ให้เกิดการฟ้องแพทย์ เพราะคนไข้ที่ได้รับความเสียหายได้รับการชดเชยจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนั้นผู้ที่จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากกฎหมายฉบับนี้ คือ คนไทยทั้งประเทศ 65 ล้านคน ซึ่งรวมทั้งแพทย์และผู้ป่วย

ที่ผ่านมา มีข่าวและความเห็นที่สร้างความเข้าใจผิดในสาระสำคัญอย่างมากซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดต่อกลุ่มแพทย์และสาธารณชนโดยรวม ทั้งนี้ กฎหมายฉบับนี้มีหลักการสำคัญ 3 หลักการ คือ
     1. กองทุนชดเชยผู้เสียหายจากระบบบริการสาธารณสุขเพื่อลดการฟ้องร้องระหว่างแพทย์และคนไข้ที่ครอบคลุมผู้รับบริการในทุกสิทธิการรักษา เพราะเป็นที่รับรู้และยอมรับกันทั่วโลกว่า ความผิดพลาดทางการแพทย์ (Medical Error)  นั้น สามารถเกิดขึ้นได้
     2. คณะกรรมการกลาง และสำนักงานที่เป็นอิสระ โดย องค์ประกอบของคณะกรรมการ ให้มีองค์ประกอบจากผู้แทนสถานพยาบาล และผู้แทนองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานคุ้มครองสิทธิด้านบริการสุขภาพ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้แทนจากสมาคมวิชาชีพหรือสภาวิชาชีพ เพราะบทบาทที่สำคัญของคณะกรรมการ คือ การพิจารณาว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากการรับบริการสาธารณสุขจริงหรือไม่ โดยไม่ได้พิสูจน์ถูกผิด และไม่เกี่ยวพันกับการสอบสวนหรือลงโทษโดยสภาวิชาชีพ เพื่อให้การชดเชยเป็นไปโดยรวดเร็วและเป็นธรรมและต้องใช้หัวใจของความเป็นมนุษย์
     3. พัฒนาคุณภาพ มาตรฐานระบบบริการสาธารณสุขในประเทศไทย

ปัญหาความกังวลในเรื่องการฟ้องอาญาแพทย์นั้น  หากดูจากข้อเท็จจริงไม่พบว่ามีคนไข้ที่อยากฟ้องอาญาแพทย์  จากข้อมูลมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคทั้งหมด 33 รายในปี 2552 ทั้ง 100% ไม่มีความประสงค์จะฟ้องอาญาแพทย์  หรือจากข้อมูลของเครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ที่มีผู้เสียหายเข้ามาปรึกษากว่า 600 ราย  มีเพียงไม่ถึง 10 รายที่จำเป็นต้องฟ้องอาญาเพราะการพิจารณาคดีโดยแพทยสภาล่าช้าจนทำให้เกิดปัญหาหมดอายุความ  ผู้เสียหายอยู่ในภาวะจำยอมที่จะต้องเลือกฟ้องคดีอาญาเพื่อทำให้อายุความเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้การฟ้องส่วนใหญ่เป็นการฟ้องโรงพยาบาลหรือกระทรวงสาธารณสุข ไม่ใช่การฟ้องแพทย์ ดังนั้น แพทยสภาควรเปิดเผยข้อมูลการร้องเรียนที่ชัดเจน ไม่ใช่สร้างความตระหนกให้เกิดในหมู่แพทย์โดยไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริง

เครือข่ายประชาชนข้างต้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า การต่อต้าน ”ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...” และขบวนการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนขณะนี้ เคลื่อนไหวเป็นระบบอย่างผิดปกตินั้น มีความเกี่ยวเนื่องกับการหาเสียงเลือกตั้งแพทยสภาชุดใหม่ที่กำลังจะมีขึ้นในต้นปีหน้าหรือไม่

นอกจากนี้ เครือข่ายประชาชนข้างต้นยังขอให้สาธารณชนจับตาและตรวจสอบการคัดค้านการจ่ายเงินสมทบของโรงพยาบาลเอกชนนั้น เกี่ยวพันกับการที่โรงพยาบาลไม่ต้องการเปิดเผยรายได้ที่แท้จริงหรือไม่

สุดท้าย เครือข่ายประชาชน ใคร่ขอเรียกร้องรัฐบาลแสดงความจริงใจในการปฏิรูปการเมืองและสังคม ด้วยการผลักดัน ”ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากบริการสาธารณสุข พ.ศ. ...” ฉบับนี้ เพราะนี่คือรูปธรรมของการปฏิรูปสังคมที่แท้จริง

แถลงการณ์โดย
เครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีเอดส์ประเทศไทย เครือข่ายผู้เสียหายทางการแพทย์ ชมรมผู้ป่วยโรคไต เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพภาคประชาชน มูลนิธิเข้าถึงเอดส์
มูลนิธิศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
คณะกรรมการองค์การพัฒนาเอกชนด้านเอดส์ (กพอ.)
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๓

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน