ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เครือข่ายคนรักหลักประกันสุขภาพภาคใต้ 9 องค์กร รวมตัวที่ลานจัตุรัสนครหาดใหญ่ ออกแถลงการณ์จับตาแผนยึดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ของฝ่ายการเมือง ซึ่งจะมีการเปลี่ยนตัวเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ในเดือนมีนาคมนี้

วันที่ 3 มี.ค. เมื่อเวลา15.00 น. เครือข่ายคนรักหลักประกันสุขภาพภาคใต้ 9 องค์กร กว่า 50 คน รวมตัวกันที่ลานจัตุรัสนครหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อมกับออกแถลงการณ์ฉบับที่1 จับตาแผนยึดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช.

โดยตามแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่เครือข่ายคนรักหลักประกันสุขภาพ เครือข่ายผู้ป่วย และชมรมแพทย์ชนบท ได้เปิดตัวแต่งตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้ เพื่อร่วมติดตามและเปิดโปงแผนยึดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นระบบที่ดูแลครอบคลุมประชาชนชาวไทยกว่า 48 ล้านคน บนหลักการ เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข ทำให้ครอบครัวไม่ล้มละลายจากกากรเจ็บป่วยกว่า 80,000 ครัวเรือน

เนื่อง จากพบว่ากำลังมีการดำเนินตามแผนยึดระบบหลักประกันโดยฝ่ายการเมืองได้เข้ายึด ครองเสียงข้างมากในกรรมการหลักประกันสุขภาพ และตั้งพวกพ้องคนนอกเกือบ 200 คน เข้ากินตำแหน่งอนุกรรมการ 13 ชุด โดยเฉพาะคณะอนุกรรมการการเงินการคลัง เป็นการแต่งตั้งที่ไม่ให้ความสนใจต่อการการตรวจสอบของสังคม

กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินการคลังเป็นตำแหน่งสำคัญเพราะเป็น ผู้ยกร่างเสนอรายละเอียดการตั้งงบ เหมาจ่ายขาขึ้นและการจัดสรรงบขาลงสู่พื้นที่และหน่วยบริหารระดับต่างๆ จึงมีผลต่ออนาคตของระบบหลักประกันสุขภาพ ซึ่ง นายวิทยา บูรณศิริ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ได้พยายามเสนอ นายโชติศักดิ์ อาสภวิริยะ ประธานกรรมการบริษัท ทีวีไดเร็ค อินโดไชน่า จำกัด แทน นางวรานุช หงสประภาส ที่ลาออก และได้รับการคัดค้านอย่างกว้างขวาง

ต่อมานายวิทยาฯ ได้พยายามเสนอ นายวินีย วิทวัสการเวช อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ที่เพิ่งเกษียณราชการ ปัจจุบันเป็นกรรมการ บริษัททิพยประกันภัย จำกัด(มหาชน) แต่ท้ายที่สุด ที่ประชุมได้เลือก ดร.คณิศ แสงสุพรรณ ผอ.สถาบันเศรษฐกิจและการคลัง และกรรมการบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน)

และ ล่าสุด นายวิทยาได้แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่ง ชาติ 5 คน และ 4 ใน 5 เป็นสายตรงที่มีการเมืองสั่งได้เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าธุรกิจแพทย์ พาณิชย์ และการเมืองได้จับมือกันเตรียมเปลี่ยนตัวเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ในเดือนมีนาคมนี้เพื่อเข้ายึดครอง สปสช.และการบริหารกองทุนแสนสี่หมื่นล้านบาทแบบเบ็ดเสร็จ

ตั้งแต่เกิดระบบหลักประกันเมื่อปี 45 ที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองยึดครองเป็นนโยบายการเมืองในนาม 30 บาทรักษาทุกโรค โดยพรรคไทยรักไทย แต่ระบบได้พัฒนามาอย่างก้าวหน้าไม่ต้องเก็บ 30 บาท และใช้บัตรประชาชนใบเดียว นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยว่าผู้ป่วยมีค่าใช้จ่ายมากกว่า 30 บาท เป็นค่าเดินทางอยู่แล้ว ข้ออ้างว่าเป็นการกันคนใช้บริการพร่ำเพรื่อจึงไม่สมเหตุสมผล

กลุ่ม คนรักหลักประกันมีมติชัดเจนไม่ให้ภาคการเมืองและธุรกิจยึดครองระบบที่ ประชาชนเป็นเจ้าของ และยอมไม่ได้ต่อไปที่จะให้ระบบหลักประกัน ที่เครือข่าวภาคประชาชนได้ร่วมกันผลักดันกับเครือข่ายนักวิชาการและเครือ ข่ายแพทย์ที่เข้าใจสารถสำคัญของการบริการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นคง ความเท่าเทียมในสังคม จะถูกทำลายลง จึงออกแถลงการณ์รวม 4 ข้อ

1.จะร่วมกับเครือข่ายกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพทั่วประเทศติดตามการ คัดสรรเลขาธิการ สปสช.ให้ได้คนที่เหมาะสม โปร่งใส่ ตรวจสอบได้ โดยจะให้ผู้ได้รับการสรรหาแสดงวิสัยทัศน์ผ่านสื่อสาธารณะ และการเลือกของกรรมการหลักประกันต้องถ่ายทอดสดให้ประชาชน48 ล้านคน หรือผู้ที่สนใจได้รับชม

2.จะติดตามตรวจสอบคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติและคณะกรรมการ ควบคุมคุณภาพของ สปสช. ในประเด็นอุดมการณ์ คุณสมบัติและผลประโยชน์ทับซ้อนเพื่อรายงานต่อสาธารณะเป็นระยะ

3. จะคัดค้านการกลับมาเก็บ30 บาท เพราะเป็นพียงการนำเครื่องหมายการค้าของพรรคการเมืองกลับมาโดยไม่ได้มีเจตนา ที่แท้จริงในการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพและไม่มีประโยชน์ในทางปฏิบัติ

4. การต่อสู้ครั้งนี้เป็นความยกลำบากเนื่องจากเป็นการร่วมกันระหว่างอำนาจทุน และการเมืองจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนได้ร่วมติดตาม จับตา ตรวจสอบและพิสูจน์ความจริงใจของทุกฝ่ายที่ให้ข้อมูลขณะนี้ ต่อจากนี้เครือข่ายคนรักหลักประกันสุขภาพจะเคลื่อนไหวใหญ่ร่วมกับเครือข่าย ทั่วประเทศต่อไป

{gallery}001-consumers_net/550303_songkla{/gallery}