คำเตือน

JFolder: :files: Path is not a folder. Path: /home/consumer/web/consumerthai.org/public_html/images/001-consumers_net/550130_actionkonkan

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/001-consumers_net/550130_actionkonkan

บริการสุขภาพ

กลุ่มคนอีสานรักหลักประกันสุขภาพ ร้องนายกทบทวนนโยบายการเก็บเงินสมทบ 30 บาท

กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพอีสาน ออกแถลงการ์ถึงนายกให้เปิดเปิงการทำงานไม่โปร่งใสของระบบหลักประกันสุขภาพ

แถลงการณ์  ฉบับที่ ๑ /๒๕๕๕

เปิดตัว  กลุ่มคนอีสาน  รักหลักประกันสุขภาพ 

วันที่  ๒๗  มกราคม  ๒๕๕๕ 

นับเป็นเวลา  ๑๐  กว่าปีมาแล้ว (ตั้งแต่กลางปี ๒๕๔๓) ที่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง จำนวนกว่า ๙ หมื่นคน ได้ร่วมกันลงชื่อเสนอกฎหมายประชาชน “ร่างพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” ขณะนั้นรัฐธรรมนูญกำหนดให้ต้องได้ ๕ หมื่นรายชื่อ  แต่เนื่องจากประชาชนเครือข่ายต่างๆ พบว่าการได้มาซึ่งหลักประกันสุขภาพเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่ประชาชนสมควรได้รับ เช่นเดียวกันเป็นหน้าที่ของรัฐพึงดำเนินการโดยเร่งด่วน  จึงร่วมแรง  ร่วมใจ ลงทุนลงแรงในการระดมรายชื่อ  ซึ่งส่งผลให้มีการกำหนดในนโยบายหาเสียงของพรรคการเมืองจนทำให้ได้รับการเลือกตั้งเมื่อปี  ๒๕๔๔  ด้วยการชูนโยบายสนับสนุนให้เกิดระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ   ในชื่อ  “ โครงการ  ๓๐  บาทรักษาทุกโรค ” จากนั้นด้วยแรงประสานภาคีต่างๆ ทำให้รัฐบาล  ขบวนประชาชน และนักวิชาการ  ผนึกกำลังกันผลักดันให้สามารถออกกฎหมาย “ พระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ”เมื่อปลายปี ๒๕๔๕ ก่อให้เกิดการเข้าถึงการรักษาของประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึงครอบคลุม และเป็นธรรมกับทุกคน  เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน  เป็นกฎหมายฉบับแรกที่มีกองทุนเยียวยาความเสียหายเบื้องต้นโดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด ( มาตรา ๔๑)ให้กับผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ (มาตรา๑๘(๔)) และพัฒนายกระดับให้มี ร่าง พรบ.คุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ที่ครอบคลุมทุกคนทุกสิทธิทั้งสวัสดิการข้าราชการ  ประกันสังคมและหลักประกันสุขภาพ

ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาจากข้อเสนอภาคประชาชน  เช่นมีการยกเลิกการเก็บเงิน ๓๐  บาททุกครั้งที่ไปรับบริการ  มีการใช้บัตรประชาชนบัตรเดียว  มีกองทุนให้กับชนกลุ่มน้อย  ชนเผ่า  การพัฒนาระบบการบริหารจัดการรักษาสุขภาพแบบมีมาตรฐานบนพื้นฐานการคำนวณค่าใช้จ่ายอย่างเป็นจริง  เป็นธรรม สำหรับทุกคน  ไม่เปิดโอกาสให้การรักษาพยาบาลเป็นธุรกิจเพื่อหวังผลกำไรเกินควร  หน่วยงานของรัฐภายใต้กระทรวงสาธารณสุข  ต้องปรับตัวเองให้เป็นนักบริหารระบบสุขภาพอย่างมีคุณภาพ  คุ้มค่า  คุ้มทุน ทั้งการรักษา  การฟื้นฟูเยียวยา และการส่งเสริมสุขภาพ  ป้องกันโรค   ที่ผ่านมา

กว่าทศวรรษก่อให้เกิดระบบการจ่ายเงินค่ารักษาที่พัฒนาขึ้นอย่างเป็นระบบ  อย่างมืออาชีพของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นระบบประกันสุขภาพระบบแรกและระบบเดียวที่ผู้แทนประชาชนส่วนต่างๆ มีส่วนร่วมในการบริหารและการควบคุมคุณภาพ

ทางด้านนายสุดใจ  ตะภา  ตัวแทนเครือข่ายผู้ติดเชื้อภาคอีสานกล่าวว่า  หลังจากที่มีกฎหมายฉบับนี้แล้วทำให้ยาที่ใช้กับผู้ติดเชื้อมีราคาถูกลง  สามารถเข้าถึงยาและการรักษา รวมถึงการมีส่วนร่วมของประชาชน  การที่จะกลับไปเก็บค่าบริการ ๓๐ บาทอีกครั้ง จะไม่ทำให้เกิดความเท่าเทียม  ซึ่งความเสมอภาคของคนที่ยังเหลื่อมล้ำกันในเรื่องรายได้ ความยากลำบากในการเดินทางเข้าถึงการรักษา  การปล่อยให้โรงพยาบาลเอกชนร่วมมือกับประกันสังคมสร้างภาพการรักษาที่แตกต่าง  รวมหัวกันขึ้นราคาอย่างมีเลิศนัย  การออกประกาศเรื่องการรักษาของผู้ประกันตนรายวัน  โดยไม่รู้ว่าทำไมไม่ทำมาตั้งแต่เมื่อ ๒๐ ปีที่แล้ว  ปล่อยให้ผู้ประกันตน ในระบบประกันสังคมได้รับการรักษาที่ไม่มีการควบคุมคุณภาพมาตั้งนาน  การไม่ยอมหลอมรวมระบบประกันสุขภาพทั้งสามภายใต้ระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและไม่เปิดโอกาสให้มีการแสวงหาผลประโยชน์เกินควรของผู้ให้บริการ  ตลอดจนการไม่ยับยั้ง  ไม่ชะลอการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาของคนต่างชาติทั้งๆ ที่คนในประเทศยังต้องรอคิวรับการรักษาเหล่านี้คือภัยคุกคามระบบหลักประกันสุขภาพ  การยิ่งขาดแคลนแพทย์  พยาบาลมากขึ้น  การสร้างภาพค่ารักษาที่สูงเกินจริง  การสร้างความเหลื่อมล้ำระหว่างบริการ สิ่งที่จะต้องดำเนินการไปข้างหน้าคือการหลอมรวมระบบหลักประกันสุขภาพทั้งประเทศให้เป็นระบบเดียว  มาตรฐานเดียว และคุ้มครองสิทธิการรักษาเท่าเทียมกัน

ในส่วนของการเยียวยาความเสียหายโดยไม่ต้องมีการพิสูจน์ถูกผิด ทางด้านนางอาภรณ์  อะทาโส ผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคจังหวัดร้อยเอ็ด  กล่าวว่าขณะนี้ในระบบสุขภาพซึ่งมี ๓ ระบบได้แก่หลักประกันสุขภาพ  ประกันสังคม และสวัสดิการข้าราชการ แต่มีเพียงระบบหลักประกันสุขภาพเท่านั้นที่มีกองทุนเยียวยาความเสียหายเบื้องต้น  ส่วนประกันสังคมและสวัสดิการข้าราชการยังไม่มีควรที่จะมีการพัฒนาตามที่ภาคประชาชนเสนอคือ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ... ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันเสนอ และรัฐบาลชุดนี้ให้ความเห็นชอบที่จะพิจารณาต่อเนื่อง เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ป่วย ลดการฟ้องร้อง เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากการไปรับบริการสาธารณสุขได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันทุกระบบ และเพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบการป้องกันความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งยังจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยไปอีกขั้นหนึ่งด้วย ซึ่งดีกว่าการขยายมาตรา ๔๑ ภายใต้ระบบหลักประกัน เนื่องจากหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนจะได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนงบประมาณตามความเสี่ยงของการให้บริการสาธารณสุขทดแทนการจ่ายฝ่ายเดียวจากรัฐ

 

เครือข่ายประชาชนในภาคอีสานที่ร่วมลงชื่อเสนอกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  เฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น  จึงต้องออกมาส่งเสียงและแสดงตัวว่าเราเป็น กลุ่มคนอีสาน  รักหลักประกันสุขภาพ พร้อมที่จะปกป้องให้ระบบนี้เป็นระบบแห่งชาติอย่างแท้จริง   ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อ

๑. จับตาการดำเนินงานของรัฐบาล  รัฐมนตรีสาธารณสุข  และคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพในการบริหารระบบหลักประกันสุขภาพให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ และกฎหมายที่ประชาชนร่วมสร้างมาตั้งแต่ต้น

๒. การเปิดโปงความไม่โปร่งใสของการดำเนินงานของระบบหลักประกันสุขภาพ  ทั้งการบริหารตัดการส่วนกลาง  และการดำเนินการในระดับ จังหวัด  อำเภอ  ตำบล  และสถานพยาบาล

๓. การนำเสนอข้อเท็จจริงของการรักษาพยาบาลที่เหมาะสม  มีคุณภาพ  มีมาตรฐาน  เพื่อแสดงให้เห็นว่าระบบการรักษาของบัตรทองมีมาตรฐานและคุ้มค่า  มากกว่าระบบของข้าราชการที่ผลาญเงินภาษีอย่างมหาศาล  และการสร้างมายาภาพของประกันสังคม

วันนี้ เรา ซึ่งมาจากทุกจังหวัดในภาคอีสาน  เป็นตัวแทนของประชาชนที่ร่วมในปฏิบัติการของกฎหมายหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ  จึงขอประกาศจัดตั้ง กลุ่มคนอีสานรักหลักประกันสุขภาพ เพื่อดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

{gallery}001-consumers_net/550130_actionkonkan{/gallery}

 


ที่พิเศษ ๑/๒๕๕๕

๒๗  มกราคม   ๒๕๕๕

เรื่อง        ข้อเสนอภาคประชาชนต่อการพัฒนาระบบบริการสุขภาพ

เรียน      นายกรัฐมนตรี  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร    ผ่านท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น

ตามที่รัฐบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งนำโดยพรรคเพื่อไทย มีนโยบายสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติมาโดยตลอด อีกทั้งระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งดำเนินงานมาเป็นเวลาเกือบ ๑๐ ปี ได้มีการพัฒนาคุณภาพ มาตรฐานบริการ การพัฒนาชุดสิทธิประโยชน์ให้มีความครอบคลุมการดูแลรักษาที่จำเป็นสำหรับประชาชนกลุ่มต่างๆ  การยกเลิกการเก็บเงินสมทบ ๓๐ บาท เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเท่าเทียมกันแก่ประชาชนทุกคน รวมทั้งการส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง เป็นรูปธรรม จนทำให้เกิดความพึงพอใจของประชาชนที่อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และผู้ให้บริการมากขึ้นทุกปี เห็นได้จากผลการสำรวจความพึงพอใจประชาชนต่อนโยบายรัฐบาลที่ผ่านมาทุกปี ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเดินหน้าต่อไป และลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ให้เป็นระบบสุขภาพมาตรฐานเดียวทั้งประเทศ กลุ่มคนอีสานรักหลักประกันสุขภาพ ร่วมกับเครือข่ายผู้บริโภค เครือข่ายผู้ติดเชื้อภาคอีสาน  เครือข่ายเกษตรกรรมทางเลือก  เครือข่ายผู้พิการ เครือข่ายแรงงานนอกระบบ  ขอเสนอประเด็นสำคัญเพื่อการพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ดังต่อไปนี้

๑.       ขอให้รัฐบาล(พรรคเพื่อไทย)ทบทวนนโยบายการเก็บเงินสมทบ ๓๐ บาท ในระบบหลักประกันสุขภาพ เพราะที่ผ่านมาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสามารถพัฒนาคุณภาพบริการได้โดยไม่ต้องมีการเก็บเงิน ๓๐ บาท การย้อนกลับไปเก็บ ๓๐ บาท จะเป็นการถอยหลังและทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติต่อประชาชน

๒.     ขอให้รัฐบาลดำเนินการให้ระบบสุขภาพของประเทศเป็นมาตรฐานเดียว ลดความเหลื่อมล้ำด้วยการสนับสนุนงบประมาณในการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ประกันตน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมและเป็นธรรมกับประชาชนอย่างถ้วนหน้า

๓.      ขอให้รัฐบาลสนับสุนนและผลักดันให้รัฐสภาเร่งพิจารณา(ร่าง)พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้เสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข พ.ศ. ... ซึ่งเป็นกฎหมายที่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร่วมกันเสนอ และรัฐบาลชุดนี้ให้ความเห็นชอบที่จะพิจารณาต่อเนื่อง เพื่อลดความขัดแย้งระหว่างผู้ให้บริการกับผู้ป่วย ลดการฟ้องร้อง เพื่อให้ประชาชนไทยทุกคนที่ได้รับความเสียหายจากการไปรับบริการสาธารณสุขได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกันทุกระบบ และเพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบการป้องกันความเสียหายจากการรับบริการสาธารณสุข ตามเจตนารมณ์ของร่างกฎหมายดังกล่าว ทั้งยังจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพของประเทศไทยไปอีกขั้นหนึ่งด้วย ซึ่งดีกว่าการขยายมาตรา ๔๑ ภายใต้ระบบหลักประกัน เนื่องจากหน่วยบริการทั้งภาครัฐและเอกชนจะได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนงบประมาณตามความเสี่ยงของการให้บริการสาธารณสุขทดแทนการจ่ายฝ่ายเดียวจากรัฐ

๔.      ขอให้มีการดำเนินการตามมติของคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กรณีนายแพทย์เอื้อชาติ กาญจนพิทักษ์ นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนและมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เป็นปฏิปักษ์ต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

๕.      ขอให้เพิ่มค่าใช้จ่ายในการจ่ายต่อโรคในการรักษาพยาบาล(DRG) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ให้เท่ากับระบบสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อหน่วยบริการและไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ใช้บริการ

พวกเราภาคประชาชนพร้อมที่จะร่วมมือกับรัฐบาลพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติอย่างเต็มที่ เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่มุ่งที่จะให้ประชาชนไทยทุกคนได้รับสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขอย่างเสมอภาคเท่าเทียม ทั่วถึง มีคุณภาพ มาตรฐาน และมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริง

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาดำเนินการและหวังว่าท่านจะสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพให้เกิดความยั่งยืนลดความเหลื่อมล้ำสร้างความเป็นธรรมและมีระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว

 

ขอแสดงความนับถือ

 

 

 

( นายวัฒนา  บุตุธรรม )                                                                     (นายเทพรักษ์  บุญรักษา)

กลุ่มคนอีสาน รักหลักประกันสุขภาพ                        ผู้ประสานงานกลุ่มคนอีสาน รักหลักประกันสุขภาพ

 

(นายสุดใจ  ตะภา)                                                                                    ( นางอรุณี  ดวงพรม )

 กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ                                                         กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ

 

 

 

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน