คำเตือน

JFolder: :files: Path is not a folder. Path: /home/consumer/web/consumerthai.org/public_html/images/action/550108_Health

แจ้งให้ทราบ

There was a problem rendering your image gallery. Please make sure that the folder you are using in the Simple Image Gallery plugin tags exists and contains valid image files. The plugin could not locate the folder: images/action/550108_Health

บริการสุขภาพ

เครือข่ายรักหลักประกันสุขภาพเล็งจับตาบอร์ดสปสช.

ภาคประชาชน แฉ ...แผนล้มล้างระบบประกันสุขภาพ ระบุ มีหลายหน่วยงานพยายามโค่น โดยวิธีแทรกแทรงสารพัดอย่าง

 

วัน 8 ม.ค. ที่โรงแรมริชมอนด์ นายจอน อึ้งภากรณ์ อดีตกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอรด์ สปสช.) ในฐานะประธานกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ กล่าวแถลงข่าวเรื่อง “แฉผังล้มระบบหลักประกันสุขภาพ” พร้อมเปิดตัว “กลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ” ครั้งแรก ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือของหลายองค์กร อาทิ มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ มูลนิธิเข้าถึงเอดส์ ว่า ที่ผ่านมา ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือที่รู้จักกันดีในบัตร 30 บาท รักษาทุกโรค มาจนถึงบัตรทองนั้น พบว่า ตัวระบบสามารถทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงระบบหลักประกันมากขึ้น มีการพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่างๆ จนได้รับการยอมรับ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบัน

กลับพบว่า ระบบหลักประกันสุขภาพที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อประชาชนกำลังถูกแทรกแซงจากฝ่ายที่เสียผลประโยชน์ โดยเฉพาะพวกนายทุน ภาคธุรกิจ เห็นได้จากการตั้งผู้ทรงคุณวุฒิของ บอร์ด สปสช.แทนที่จะช่วยกันพิจารณาทั้งภาคประชาชน ทั้งฝ่ายการเมือง กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และผู้แทนต่างๆ แต่กลับมีการเลือกผู้ทรงคุณวุฒิที่ปราศจากความเห็นของประชาชน เลือกบุคคลที่สาธารณะแทบไม่รู้จัก ซึ่งภาคประชาชนมองว่าเป็นการเลือกพวกพ้อง จนนำไปสู่การฟ้องศาลปกครอง ซึ่งตรงนี้จะเป็นปัญหาในเรื่องการพิจารณานโยบาย เพราะสุดท้ายการประกาศนโยบายใดๆ จะกลายเป็นว่า ภาคประชาชนเป็นเสียงส่วนน้อย ไม่สามารถออกสิทธิออกเสียงเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้อย่างแท้จริง ที่สำคัญ กลับจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นเฉพาะในการจัดซื้อจัดจ้างในวงเงินถึง 500 ล้านบาท โดยอ้างว่า สปสช.มีปัญหาจากการตรวจสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) และยังมีความพยายามในการฟื้นคืนอำนาจไปสู่ สธ.โดยการมอบอำนาจการสรรหาเลขาธิการ สปสช.คนใหม่ แทนคนปัจจุบันที่จะหมดวาระลงในช่วงมีนาคมนี้ ไปยัง สธ.แทน ซึ่งไม่ถูกต้อง ผิดหลักกฎหมาย เนื่องจากที่ผ่านมาต้องเป็นบอร์ด สปสช.โดยมาจากหลายฝ่าย และในสัดส่วนเท่าเทียมกัน

ประธานกลุ่ม กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ หน้าที่ของบอร์ด สปสช.ควรต้องตามกฎหมายในเรื่องรวมระบบประกันสังคมกับบัตรทอง กลับยังไม่ดำเนินการ แต่ปล่อยให้ประกันสังคมเพิ่มสิทธิประโยชน์เพื่อถ่วงเวลา ทั้งๆ ที่การเพิ่มสิทธิของประกันสังคมเป็นประโยชน์กับ รพ.เอกชนมากกว่าผู้ประกันตน เพราะสุดท้ายเงินส่วนใหญ่ก็จะไปลงที่ รพ.เอกชน ทั้งๆ ที่ภาษีของผู้ประกันตนก็จ่ายให้ระบบหลักประกันสุขภาพฯ และยังต้องจ่ายเงินทุกเดือนให้ประกันสังคม ก็ควรได้อยู่ในระบบหลักประกันสุขภาพฯที่ดีไปเลยดีกว่า สิ่งเหล่านี้มองว่า หากบอร์ด สปสช.ชุดใหม่ไม่เข้าใจการทำงาน ก็ควรถอยหลังลงเรื่อยๆ และหากมีการเมืองเข้ามาแทรกแซง มีเรื่องผลประโยชน์ ประชาชนคงไม่ได้อะไร

น.ส.สุภัทรา นาคะผิว ผอ.ศูนย์คุ้มครองสิทธิด้านเอดส์ กล่าวว่า กลุ่มที่มาแทรกแซงระบบหลักประกันสุขภาพ ไม่ใช่ใครอื่น เป็นกลุ่มก๊วนที่เสียผลประโยชน์โดยตรง มีทั้ง 7 กลุ่ม ได้แก่ สมาคมผู้วิจัยและผลิตเภสัชภัณฑ์ (พรีม่า) สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ชมรมโรงพยาบาลเพื่อการพัฒนาระบบบริการประกันสังคม สหพันธ์ผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์และการสาธารณสุขประเทศไทย (สผพท.) นอกจากนี้ ยังมีคนบางกลุ่มในแพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และฝ่ายการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้อง ตรงนี้อยากฝากให้สังคมช่วยจับตาว่า เป็นจริงหรือไม่ เพราะสุดท้ายจะต้องมีการเคลื่อนไหวที่เอื้อประโยชน์ต่อบุคคลพวกนี้แน่นอน


น.ส.สุรีรัตน์ ตรีมรรคา ผู้ประสานงานกลุ่ม กล่าวว่า การเปิดตัวกลุ่มครั้งนี้เพื่อต้องการพิทักษ์สิทธิของประชาชน ต้องการให้ระบบหลักประกันสุขภาพที่เป็นธรรมอยู่ต่อไป โดยยึดหลัก ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม ระบบสุขภาพมาตรฐานเดียว ซึ่งในวันที่ 9 มกราคม จะมีการประชุมบอร์ด สปสช.ทางกลุ่มภาค กทม.จะเดินทางไปยื่นหนังสือสนับสนุนระบบหลักประกันสุขภาพที่ปราศจากการแทรกแซงใดๆ แก่ประธานบอร์ด สปสช.และในจังหวัดต่างๆ ก็จะมีการเคลื่อนไหวลักษณะนี้ อาทิ ในวันที่ 27 มกราคม กลุ่มภาคอีสาน จ.ขอนแก่น จะยื่นหนังสือแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นอกจากนี้ วันที่ 9 กุมภาพันธ์ ทางกลุ่ม จ.นครปฐม วันที่ 14 กุมภาพันธ์ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สงขลา จะเคลื่อนไหวยื่นหนังสือพร้อมกันแก่ผู้ว่าฯ เช่นกัน และในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ กลุ่มภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จะยื่นหนังสือให้ สสจ.นายก อบจ.และ ส.ส.เพื่อสนับสนุนดังกล่าว



{gallery}action/550108_Health{/gallery}

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน