อย.เตือนหญิงสาวที่รักสวยงาม ระวังการฉีดสารคอลลาเจน อาจได้รับอันตรายหากฉีดเข้าไปในเส้นเลือดหรือเส้นประสาท ทำให้เส้นเลือดอุดตัน ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ อีกทั้งสารดังกล่าว อย. ไม่ได้รับขึ้นทะเบียนตำรับยา พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อโฆษณารับฉีดสารโบท็อกซ์ กลูตาไธโอน นอกสถานที่ หากจำเป็นควรรับบริการยังสถานพยาบาล เพราะหากแพ้ มีเครื่องมือและยาที่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน
นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากข่าวหน้าหนังสือพิมพ์พบพริตตี้สาวกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราหลังฉีดคอลลาเจน เสริมสะโพกกับหมอเถื่อนนั้น เรื่องดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เคยออกข่าวเตือนหญิงสาวหลายครั้งให้ระวังอันตรายจากการฉีดสารคอลลาเจน ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ และสารกลูตาไธโอน เนื่องจากเป็นการนำสารดังกล่าวมาใช้อย่างไม่เหมาะสม รวมทั้งมีการตรวจสอบจับกุมผู้ลักลอบฉีดสารดังกล่าวโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย อยู่เป็นระยะอย่างต่อเนื่อง กรณีหญิงสาวตามที่เป็นข่าวจะต้องตรวจสอบก่อนว่าได้รับการฉีดคอลลาเจนจริง หรือไม่ หรือมีการใช้สารแปลกปลอมอื่น ซึ่งสันนิษฐานได้ว่าหญิงสาวรายนี้มีอาการแพ้อย่างรุนแรง ช็อก และหมดสติในที่สุด
นพ.พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม อย.ขอชี้แจงว่าฉีดยาคอลลาเจนไม่เคยมีการรับขึ้นทะเบียนตำรับยาแต่อย่างใด เป็นสารที่ยังไม่ได้รับการรับรองความปลอดภัยเพื่อใช้สำหรับฉีด ซึ่งส่วนใหญ่พบเป็นการลักลอบนำเข้ามาใช้ และนำมาโฆษณาขายและฉีดในราคาถูก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย สำหรับสารกลูตาไธโอน อย.ไม่ได้รับขึ้นทะเบียนตำรับยา กรณีการนำสารกลูตาไธโอนมาใช้เป็นยาฉีดทำให้ผิวขาว ถือเป็นการใช้ในทางที่ผิด และสารกลูตาไธโอนไม่มีข้อบ่งชี้ในการช่วยทำให้ผิวขาวใสขึ้นแต่อย่างใด และยังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงคือ แพ้อย่างรุนแรง หลอดลมตีบ หายใจติดขัด ความดันโลหิตต่ำ หากรักษาไม่ทัน อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
เลขาธิการ อย. กล่าวต่อว่า หากผู้บริโภครายใดมีความประสงค์จะฉีดสารใด ๆ เพื่อเสริมความงาม ควรเข้ารับบริการฉีดกับสถานพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบสถานพยาบาลตามกฎหมาย หากเกิดอันตรายจากการแพ้ ทางสถานพยาบาลก็จะรับผิดชอบ และมีเครื่องมือทางการแพทย์ พร้อมทั้งยาที่จะช่วยเหลือได้ทันท่วงที นอกจากนี้ ควรได้รับการฉีดจากแพทย์เฉพาะทางที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านโครงสร้างกาย วิภาค เซลล์วิทยา เนื่องจากจะไม่ฉีดให้กระทบเส้นเลือด หรือเส้นประสาท และสามารถรู้ได้ว่าผู้มารับบริการควรได้รับยาฉีดปริมาณเท่าไร หากฉีดกับผู้ที่ไม่ใช่แพทย์ หรือไม่ใช่แพทย์เฉพาะทาง อาจเสี่ยงต่อการฉีดผิดวิธีไม่ถูกทาง อาจเป็นอันตรายถึงชีวิต ตามที่มีข่าวปรากฏให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
“ขอให้กรณีที่เกิดกับหญิงสาวรายนี้เป็นอุทาหรณ์ให้ผู้คิดจะฉีดสารเสริมความ งามเข้าสู่ร่างกายพิจารณาให้ถี่ถ้วน ระมัดระวัง ไม่หลงคารมโฆษณาผลิตภัณฑ์ ราคาถูกและเห็นแก่ความสะดวกในการไปฉีดตามบ้าน ตามรถ ตามห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล ที่สำคัญ ควรสอบถามและขอดูตัวยาที่ใช้ว่ามีการอนุญาตขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือ ไม่ เพื่อให้ได้ยามีคุณภาพมาตรฐาน หากฉีดยากับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือใช้ยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน และสถานที่ฉีดยาที่ไม่น่าเชื่อถือ ผลที่ได้อาจไม่คุ้มเพราะอาจเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น เกิดการอักเสบ อาการแพ้ต่างๆ นอกจากจะไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบแล้ว ยังอาจเสียเงินทองจำนวนมากในการรักษาร่างกาย และหากผู้บริโภคพบเห็นผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมาย หรือโฆษณา โอ้อวดสรรพคุณเกินจริงผ่านทางสื่อต่างๆ สามารถร้องเรียนมายังสายด่วน อย. โทร.1556.
-สำนักข่าวไทย 20 ก.ย. 55