นายสมพงษ์ ชื่นวิทยา ทนายความและผู้เข้าสอบขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะ เปิดเผยว่า ภายหลังร่วมหารือกับคณะกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทยกรณีการประกาศยก เลิกการสอบประเภทเภสัชกรรมไทย และการนวดไทย ได้ข้อสรุปว่าคณะกรรมการจะประชุมกันในวันที่ 6 ส.ค. เพื่อพิจารณาข้อเสนอของผู้เข้าสอบ อาทิ การขอให้ยกเลิกประกาศฯ หรือการจัดอบรมและรับรองใบอนุญาตให้ ทั้งนี้หากผลการประชุมยังยืนยันตามเดิม ก็จะดำเนินการฟ้องอาญาต่อคณะกรรมการทั้ง 18 คน รวมทั้งสำนักสถานพยาบาลและกองการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตามมาตรา 157 และ 164 โดยทันที
“ไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจแก่คณะกรรมการวิชาชีพใน การประกาศยกเลิกการสอบ ดังนั้นหลังวันที่ 6 ส.ค.หากมติของคณะกรรมการยังเหมือนเดิม ก็จำเป็นต้องฟ้องทั้งศาลปกครองและฟ้องอาญาด้วย โดยผู้เข้าสอบทั้งหมดกว่า 5,000 คน จะเป็นโจทก์ยื่นฟ้องและแบ่งกันฟ้อง โดยผู้อบรม 10 ราย ฟ้องคณะกรรมการ 1 คน กระจายทั่วทั้งประเทศ” นายสมพงษ์ กล่าว
ด้านนางสมใจ อัศวสุริยะวงศ์ ผู้เข้าสอบฯ กล่าวว่า ไม่เชื่อมั่นในการดำเนินการของสำนักสถานพยาบาลและกองการประกอบโรคศิลปะ และคาดว่าข้อสอบจะรั่วในกระบวนภายใต้การดูแลของหน่วยงานนี้ ดังนั้นข้อตั้งคำถามว่าหลังจากออกข้อสอบแล้วมีขั้นตอนการเก็บอย่างไร อยู่ห้องไหน ใครดูแล ใครถือกุญแจ และส่งไปที่ไหนอย่างไรบ้าง ทั้งนี้การประกาศยกเลิกการสอบทำให้ผู้เข้าสอบเสียหาย จึงจำเป็นต้องฟ้องสำนักสถานพยาบาลฯ ด้วย
ขณะที่ นายสนั่น ศุภธีรสกุล รองประธานกรรมการวิชาชีพสาขาการแพทย์แผนไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน กล่าวว่า การสอบสวนของคณะอนุกรรมการวิชาชีพสอบข้อเท็จจริง พบหลักฐานอันเชื่อได้ว่ามีข้อสอบรั่วจริง โดยมีแนวโน้มว่ารั่วเป็นวงกว้างทั่วประเทศ เป็นเหตุให้ไม่สามารถทราบได้ว่าผู้ที่ผ่านการสอบนั้นมีความรู้จริงหรือไม่ ทั้งนี้ในฐานะผู้ออกใบอนุญาตจึงจำเป็นต้องประกาศยกเลิกการสอบ
“อำนาจของคณะกรรมการวิชาชีพคือการออกใบอนุญาต และเพิกถอน ดังนั้นกระบวนการจัดสอบก็เป็นสิ่งที่เราจำเป็นต้องทำให้บริสุทธิ์” นายสนั่น กล่าวและว่า จะนำข้อเสนอของผู้เข้าสอบไปหารือในการประชุมวันที่ 6 ส.ค. แต่อย่างไรก็ตามยังไม่สามารถบอกได้ว่าผลจะเป็นอย่างไร
ส่วน นพ.วิศิษฐ์ ตั้งนภากร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ในฐานะคณะกรรมการ กล่าวว่า จากหลักฐานพบว่ามีข้อสอบรั่วก่อนการเปิดสอบ โดยพบเพียง 2 ประเภท ส่วนที่เหลือนั้นหลักฐานยังไปไม่ถึง ทั้งนี้ในวันนี้ (3 ส.ค.) จะไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการกับผู้กระทำความผิด และจะเยียวยาผู้เสียหายจากประกาศยกเลิกการสอบด้วยการเร่งจัดสอบครั้งใหม่ อย่างรวดเร็วคือภายในเดือนก.ย.2553 ซึ่งจะไม่เก็บค่าธรรมเนียมแต่อย่างใด และคาดว่าจะประกาศผลสอบได้ภายในปลายเดือนเดียวกันนี้
ขณะเดียวกัน นพ.อมร เปรมกมล คณะกรรมการฯ ออกมากล่าวย้ำว่า การประกาศยกเลิกการสอบเป็นมติเอกฉันท์ของที่ประชุมคณะกรรมการ
วันที่ 4 /8/53