เรียกร้อง อย. ออกมาตรการกำกับดูแลผู้ประกอบการที่ใช้กัญชาเป็นส่วนประกอบในอาหาร

26302021 news pic 2

องค์กรผู้บริโภคเรียกร้อง อย. ออกมาตรการการกำกับดูแลผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ส่วนของกัญชาเป็นส่วนประกอบในอาหาร หวั่นเกิดผลกระทบผู้บริโภคบางรายแพ้สารกัญชา

          ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขปลดล็อคส่วนของพืชกัญชา - กัญชง ประกอบด้วย เปลือก ลำต้นเส้นใย กิ่งก้าน รากและใบ ไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วยให้พ้นจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 แต่ยังไม่มีการแก้ไขประกาศที่เกี่ยวข้องกับการใช้ในอาหารเพราะมีเสียงแย้งจากนักวิชาการเรื่องข้อมูลความปลอดภัยในการบริโภคเป็นอาหารยังมีไม่มากพอนั้น

มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ภาคประชาชน (คอบช.) และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค มีข้อห่วงใยกับการนำส่วนต่าง ๆ ของพืชกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษไปใช้ในอาหารโดยขาดการกำหนดมาตรการในการควบคุมดูแลการใช้ที่รัดกุมเพียงพอของ อย. จนอาจเกิดปัญหาทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิด หลงเชื่อบริโภค และอาจเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพของประชาชนได้ โดยประเมินได้จากกรณีที่ อย. ดำเนินการต่างๆ ได้แก่

  • ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563 ลงวันที่ 14 ธันวาคม 2563 โดยในรายละเอียดของประกาศนี้ ที่กำหนดให้พืชกัญชาส่วนที่ไม่เป็นยาเสพติด ในประกาศข้อ 2 (1) “กัญชา (cannabis) พืชในสกุล Cannabis และวัตถุหรือสารต่าง ๆ ที่มีในพืชกัญชา เช่น ยาง น้ำมัน ยกเว้นวัตถุหรือสารดังต่อไปนี้ เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้ผลิตในประเทศ ไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ก) เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน และราก (ข) ใบ ซึ่งไม่มียอดหรือช่อดอกติดมาด้วย (ค) สารสกัดที่มีสารแคนนาบิไดออล (cannabidiol, CBD) เป็นส่วนประกอบและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก (ง) กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชาและต้องมีสารเตตราไฮโดรแคนบินอล (tetrahydrocannabinol, THC) ไม่เกินร้อยละ 0.2 โดยน้ำหนัก”
  • ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 424) พ.ศ. 2564 ออกตามความในพระราชราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 จะส่งผลให้ส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดสามารนำมาผลิตอาหารได้
  • จากการออกประกาศดังกล่าวทั้ง 2 ฉบับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์และแนวทางการอนุญาตเรื่องการใช้ส่วนของกัญชาที่ไม่ใช่ยาเสพติดให้โทษมาผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ความรับผิดชอบของผู้ประกอบการ และบทลงโทษกรณีผู้ประกอบการที่ไม่ปฏิบัติตาม อีกทั้งยังไม่มีมาตรการการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเฉพาะในด้านความปลอดภัย ซึ่งจำเป็นต้องมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนเพียงพอ ได้แก่ การแจ้งว่ามีส่วนประกอบของกัญชาในอาหาร การให้ข้อมูลผู้บริโภคได้รับทราบถึงผลข้างเคียงและความเสี่ยง ตลอดจนคำเตือนสำหรับกลุ่มบุคคลที่มีความเสี่ยงในการบริโภค และการกำหนดอายุผู้บริโภคที่จะบริโภคได้

ดังนั้น เครือข่ายองค์กรผู้บริโภคขอเรียกร้องให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีคำสั่งให้ อย. ในฐานะหน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการออกมาตรการการกำกับดูแลผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ส่วนของกัญชาในอาหาร เพื่อเป็นการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค ดังนี้

1. ผู้ประกอบการต้องลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ว่าจะขายอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ส่วนของกัญชา และต้องเปิดเผยแหล่งที่มาของวัตถุดิบกัญชา

2. ณ จุดขาย ต้องมีป้ายข้อความชัดเจนเพื่อแสดงว่า “ร้านนี้ขายอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมกัญชา” พร้อมแสดงข้อมูลที่สำคัญ ดังนี้

     2.1 แสดงรายการอาหาร และเครื่องดื่ม ที่มีส่วนผสมของกัญชา

     2.2 แสดงส่วนผสม และปริมาณที่ใช้ในการผลิตอาหาร

     2.3 แสดงข้อความ “คำเตือน” เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ผู้สูงอายุ ผู้ที่แพ้กัญชา ไม่ควรรับประทาน

     2.4 แสดงข้อความ “คำเตือน” สำหรับผู้มีโรคประจำตัวต้องระวัง และข้อระวังอื่น ทางวิชาการ

3. ณ จุดขาย ห้ามโฆษณาสรรพคุณในการป้องกัน หรือรักษาโรค

4. กำหนดอายุผู้ที่มีสิทธิซื้อผู้รับประทานให้ชัดเจน

5. กำหนดบทลงโทษหากไม่ปฏิบัติตาม

6. ให้มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เรื่องมาตรการการกำกับดูแลร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ใช้ส่วนของกัญชา ต่อสาธารณะ

Tags: มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค, มพบ., สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, อย., กัญชาในอาหาร, ปลดล็อคกัญชาในอาหาร, กระทรวงสาธารณสุข

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน