อย.เผย ครบกำหนดให้ผู้ผลิตยาแก้ไขทะเบียนตำรับยาแอสไพรินไม่ให้ใช้สำหรับลดไข้ในเด็กแล้ว รายใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง จะถูกเพิกถอนทะเบียนตำรับยาทันที
ภญ.วีรวรรณ แตงแก้ว รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 857/2551 เรื่อง แก้ไขทะเบียนตำรับยาที่มีแอสไพรินเป็นส่วนประกอบ โดยให้ผู้รับอนุญาตต้องแก้ไขทะเบียนตำรับยาที่มีแอสไพริน ไม่ให้ใช้แก้ปวด ลดไข้ ในเด็กและวัยรุ่น อายุต่ำกว่า 18 ปี ทั้งนี้ ให้ผู้รับอนุญาตยื่นคำขอแก้ไขทะเบียนตำรับยาให้ถูกต้องตามคำสั่งภายใน 1 ปี นับแต่คำสั่งมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2552 โดยเฉพาะให้ตัดสรรพคุณที่ใช้สำหรับเด็กออกไป ซึ่งถึงกำหนดระยะเวลาแล้ว
ภญ.วีรวรรณกล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลการขึ้นทะเบียนตำรับยาแอสไพริน มียาแอสไพรินที่ขึ้นทะเบียนโดยเป็นยาสำหรับเด็กเท่านั้น มีจำนวน 29 ตำรับ และตำรับที่มีข้อบ่งใช้ทั้งสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ 55 ตำรับ โดยยังมีผู้รับอนุญาตบางส่วนไม่ได้มาแก้ไขภายในเวลาที่กำหนด ซึ่ง อย.จะมีการประชุมคณะกรรมการยาวันที่ 9 ธันวาคมนี้ และอาจเสนอให้เพิกถอนทะเบียนตำรับยาที่ไม่ได้ดำเนินการแก้ไขตามกฎหมายต่อไป ซึ่งยาที่มีการเพิกถอนทะเบียนไปแล้ว จะวางขายไม่ได้ และผู้รับอนุญาตจะต้องมีหน้าที่แก้ไขฉลากและเอกสารกำกับยาให้ตรงตามที่แก้ไข มิฉะนั้นจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย
"อย.มีการทบทวนทะเบียนตำรับยาอยู่เสมอ ไม่เฉพาะยาแอสไพริน แต่ยาอื่นๆ ที่มีปัญหาการใช้ก็จะมีการทบทวน แก้ไข เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยขณะนี้อากาศเปลี่ยนแปลง การใช้จำเป็นต้องระมัดระวัง อย่าใช้ยาแอสไพรินในเด็ก หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี เด็ดขาด เพราะจะเกิดอาการรายย์ ซินโดรม (Reye?s syndrome) เป็นอาการเจ็บป่วยที่รุนแรงเนื่องจากตับถูกทำลาย ทำให้สมองบวม ชัก หมดสติ และอาจเสียชีวิตได้ หากเป็นไข้ ขอให้ใช้พาราเซตามอลแทน" ภญ.วีรวรรณกล่าว
ข้อมูลจาก นสพ.มติชน 27/11/52