ผู้ส่งออกนมของนิวซีแลนด์ยืนยันคุณภาพหลังเกิดเหตุอื้อฉาวนมผงฮอร์โมนในจีน

เวลลิงตัน 11 ส.ค. – บริษัทฟอนเทอร์รา ผู้ประกอบการด้านผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่ของนิวซีแลนด์ แสดงความมั่นใจถึง 100 เปอร์เซ็นต์ ต่อคุณภาพนมที่ส่งออกไปยังบริษัทของจีน ซึ่งกำลังถูกทางการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่านมผงมีสารปนเปื้อน

ผู้ปกครองและคณะแพทย์ในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ แสดงความวิตกกังวลว่า ฮอร์โมนในนมผงของบริษัทซีนูตราอาจเป็นสาเหตุทำให้เด็กทารกเพศหญิงมีหน้าอก เร็วขึ้น โดยบริษัทซีนูตราเปิดเผยว่า นมผงดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศนิวซีแลนด์ ขณะที่บริษัทฟอนเทอร์รายืนยันในแถลงการณ์ว่า บริษัทได้จัดส่งนมผงให้แก่ซีนูตรา แต่ทางบริษัทไม่ใช่ผู้จัดหาวัตถุดิบเพียงรายเดียวของซีนูตรา และว่า นิวซีแลนด์มีกฎหมายควบคุมการใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตอย่างเข้มงวด และบริษัทฟอนเทอร์ราไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สารดังกล่าวในการเลี้ยงวัวนม

ก่อนหน้านี้ กระทรวงสาธารณสุขของจีนสั่งให้เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของอาหารในมณฑลหู เป่ย สอบสวนข้ออ้างที่ว่านมผงเป็นสาเหตุทำให้ทารกเพศหญิงมีหน้าอกเร็วกว่าวัยอัน เหมาะสม หลังหนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ของทางการจีนรายงานอ้างผลตรวจทางการแพทย์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า พบเด็กหญิง 3 คน ซึ่งมีอายุระหว่าง 4-15 เดือน และดื่มนมผงสำหรับทารกชนิดเดียวกัน มีระดับฮอร์โมนสูงกว่าค่าเฉลี่ยของผู้หญิงวัยผู้ใหญ่

............................................................................................................................................

 

ที่มา : สำนักข่าวไทย วันพุธ ที่ 11 ส.ค. 2553

พิมพ์ อีเมล

จีนสอบนมผงทำเด็กอกโต

กระทรวงสาธารณสุขจีนแถลงว่า  ทาง กระทรวงฯ สั่งให้หน่วยงานที่ดูแลอาหาร  ให้ปลอดภัย ในมณฑลหูเป่ย ทางตอนกลางของประเทศ ดำเนินการตรวจสอบคำกล่าวอ้างที่ว่า นมผงเป็นสาเหตุให้ทารกเพศหญิงมีหน้าอกโตเกินวัย

นายเติ้ง ไห่ฮัว โฆษกกระทรวงสาธารณสุขจีน เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า  หน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยของอาหาร  ได้ทำการทดสอบตัวอย่างนมผงที่ผลิตโดยบริษัทไซนูตราในเมืองชิงเต่าแล้ว ภายหลังผู้ปกครองและแพทย์หลายคนแสดงความวิตกว่า นมผงที่เจือปนฮอร์โมน อาจเป็นสาเหตุให้ทารกเพศหญิงมีหน้าอกก่อนวัยอันควร นอกจากนั้น ยังดำเนินการตรวจสอบทางการแพทย์ถึงสาเหตุที่ทำให้ทารกเติบโตผิดปกติ ด้วยการปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์

นายเติ้งกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กโตเกินวัยมีความซับซ้อนและอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ และผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าปัจจัยด้านอาหารหรือสภาพแวดล้อมมีส่วน หรือไม่ ก่อนหน้านั้น ทางหน่วยงานดูแลด้านอาหารให้ปลอดภัยในมณฑลหูเป่ย  ปฏิเสธคำเรียกร้องของบรรดาผู้ปกครองให้ตรวจสอบนมผงที่ผลิตโดยบริษัทไซนูตรา  ด้วยการอ้างว่า ไม่สามารถดำเนินการตรวจสอบตามคำเรียกร้องของผู้บริโภค

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนมของจีน เคยถูกเรียกคืนทั่วโลกเมื่อปี 2551 หลังจากมีการตรวจพบสารเมลามีน ซึ่งใช้ทำพลาสติกในอุตสาหกรรม และยังพบสารเมลามีนในสินค้าของบริษัทผู้ผลิตนมของจีน 22 แห่ง ทำให้ทารกเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 6 ศพ และล้มป่วยอีก 300,000 ราย ทั่วประเทศ.

....................................................................................................

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม 2553 เวลา 8:21 น

พิมพ์ อีเมล

สธ.ยันไทยไม่มีการนำเข้านมผงจากจีน

“จุรินทร์” ยันไทยไม่มีการนำเข้านมผงใด ๆ จากจีน ประชาชนไทยวางใจได้

กรณี สื่อจีนรายงานข่าวว่า เด็กทารกหญิงที่กินนมผงที่ผลิตจากบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองชิงเตา ประเทศจีน มีการเติบโตของหน้าอกก่อนวัย โดยผลทดสอบทางการแพทย์ เด็ก 3 คน อายุ 15 เดือน-4 ขวบ พบว่า มีฮอร์โมนสูงกว่าระดับของผู้หญิงที่โตแล้วนั้น ความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว วันนี้ (10 ส.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า ข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวทราบว่า ทางการจีนยังไม่ได้มีการตรวจสอบนมผงดังกล่าว จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า นมผงดังกล่าวจะมีส่วนผสมของฮอร์โมนเพศหญิงปนอยู่หรือไม่ แต่หากมี ก็อาจมีผลกระทบต่อเด็กหญิง และชายที่กินเข้าไป

“สำหรับความเป็นห่วงว่าอาจจะมีการนำเข้านมผงดังกล่าวเข้ามาขายในประเทศไทย นั้น ได้ตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว ปรากฏว่า ตั้งแต่มีประเด็นเรื่องเมลามีนที่ผสมในนมนำเข้าจากจีน จนถึงขณะนี้ไทยไม่ได้นำเข้านมจากจีนเลย หากนำเข้า อย.จะต้องทราบ เพราะมีด่านประจำอยู่ที่ศุลกากรทุกแห่งทั่วประเทศ จึงยืนยันได้ว่า ไม่มีการนำเข้านมผงจากจีน เว้นแต่มีการลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องตรวจสอบต่อไป จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้” นายจุรินทร์ กล่าว.

...........................................................................................................

ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันอังคาร ที่ 10 สิงหาคม 2553 เวลา 19:36 น

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน