กรมการขนส่งฯ คุมไม่อยู่ ผู้ประกอบการรถตู้หลายสายดอดขึ้นราคาอีก 5 บาทหลังมาตรการปรับลดเหลือ 13 ที่นั่ง หวังชดเชยรายได้ที่หายไป ขณะที่ผู้โดยสารพูดไม่ออกยอมควักจ่ายเพิ่มเพราะไม่มีทางเลือก “อธิบดีขนส่ง” ยันไม่อนุญาตให้ขึ้นราคา

รายงานข่าวจากผู้จัดการรายวัน 360 องศา ระบุว่า นับจากที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้บังคับใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการ และเจ้าของรถตู้โดยสารทุกคันในการปรับปรุงแก้ไขการจัดวางที่นั่งผู้โดยสารในรถตู้โดยสารสาธารณะทุกประเภทให้ไม่เกิน 13 ที่นั่ง ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ค.นี้เป็นต้นไป ซึ่งพบว่ารถตู้โดยสารปรับเปลี่ยนที่นั่งเหลือ 13 ที่นั่งตามคำสั่ง แต่ปรากฏว่าผู้ประกอบการบางสายได้เรียกเก็บค่าโดยสารเพิ่มอีก 5 บาท โดยกรมการขนส่งฯ ไม่ได้เข้าไปตรวจสอบใดๆ

ผู้โดยสารรายหนึ่งร้องเรียนมายัง ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ว่า ใช้บริการรถตู้โดยสารปรับอากาศ สาย ต 83 เส้นทางอนุสาวรีย์ฯ-เซียร์รังสิต-ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต อัตราค่าโดยสารเดิม 30 บาท แต่เมื่อมีมาตรการปรับลดเหลือ 13 ที่นั่ง ได้มีการปรับขึ้นค่าโดยสารเป็น 35 บาทจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีรถตู้ เส้นทางจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต-อนุสาวรีย์ฯ เพิ่มจาก 35 บาทเป็น 40 บาท และสาย ต 84 สวนจตุจักร-รังสิต มีการแจ้งผู้โดยสารว่าจะเก็บค่าโดยสารเพิ่มจาก 30 บาทเป็น 35 บาทตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

รายงานข่าวแจ้งว่า การปรับเพิ่มค่าโดยสารของรถตู้จะไม่มีการประกาศแจ้งใดๆ แต่จะใช้วิธีบอกผู้โดยสารในขณะจ่ายเงินว่าราคาเท่าไหร่ ซึ่งผู้โดยสารส่วนใหญ่เมื่อทราบว่ามีการเพิ่มค่าโดยสารขึ้น 5 บาทก็ไม่กล้าโวยวายเพราะเกรงจะมีปัญหา นอกจากนี้ต้องยอมรับว่าปัจจุบันประชาชนยังไม่มีทางเลือกในการเดินทางมากนัก เพราะรถตู้ยังคงได้เปรียบเรื่องความเร็วในการถึงที่หมายมากกว่าขนส่งประเภทอื่น จึงยอมจ่ายเพิ่มแบบไม่มีทางเลือก

ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีการอนุมัติให้ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารปรับอากาศปรับขึ้นค่าโดยสารแต่อย่างใด และหากพบสายใดมีการขึ้นราคาขอให้ผู้โดยสารให้ข้อมูลไปยังกรมการขนส่งฯ เพื่อดำเนินการ

 

ข้อมูลจาก ผู้จัดการรายวัน 360 องศา