นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวภายหลังหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมบัญชีกลาง กรมการขนส่งทางบก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสมาคมประกันวินาศภัย ว่า เพื่อทำความเข้าใจร่วมกันกรณีประชาชนร้องเรียนว่าเมื่อประสบอุบัติเหตุต้องเข้ารักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลต่าง ๆ จะต้องจ่ายเงินสำรองไปก่อน ซึ่งเห็นว่าไม่ถูกต้อง ทำให้ประชาชนผู้ประสบอุบัติเหตุเดือดร้อน
"ได้กำชับว่า ต่อจากนี้การเกิดอุบัติเหตุบริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินทดแทนค่าสินไหมตามกฎหมาย โดยจะต้องไม่มีข้ออ้างใด ๆ ทั้งสิ้น"
นางจันทรา กล่าวว่า ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 ค่ารักษา พยาบาลเบื้องต้นอยู่ที่ 15,000 บาท ค่าปลงศพ 35,000 บาท หากเสียชีวิตจะได้รับเงินทดแทน 100,000 บาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงระเบียบเพิ่มสัดส่วนค่ารักษาพยาบาลจาก 15,000 บาท เป็น 50,000 บาท เสียชีวิตจาก 100,000 บาท เป็น 200,000 บาท และรักษาพยาบาลจ่ายรายวันจริงไม่เกิน 20 วัน ๆ ละ 200 บาท ที่ผ่านมามีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมากกว่า 8 ครั้ง และลดเบี้ยประกันภัยภาคบังคับลงมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เมื่อประชาชนเกิดอุบัติเหตุ บริษัทประกันภัยจะต้องจ่ายค่าสินไหมตามกฎหมายคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถทันที หลังจากนั้นค่อยมาดำเนินการหักล้าง ซึ่งบริษัทประกันจะชดเชยกรณีการเกิดอุบัติเหตุภายใน 7 วัน และให้บริษัทประกันลดขั้นตอนและเอกสารต่าง ๆ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชนมากที่สุด โดยขณะนี้สมาคมประกันวินาศภัยรับปากกับ คปภ.ว่า จะลดขั้นตอนและวิธีการ พร้อมปฏิบัติตามกฎระเบียบของ คปภ.อย่างเคร่งครัด
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมามีบางบริษัทประวิงการจ่ายค่าสินไหม จึงได้กำชับว่าหากไม่ปฏิบัติตามและประชาชนยังมีการร้องเรียน คปภ.จะดึงเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาผ่านคณะกรรมการเปรียบเทียบปรับและลงโทษ รวมทั้งประจานผ่านสื่อและเว็บไซต์ของ คปภ.อย่างน้อย 6 เดือน ส่วนกรณีผู้ประสบอุบัติเหตุไม่ได้ทำประกันภัยนั้น จะมอบหมายให้บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุต่อไป
ข้อมูลจาก นสพ.กรุงเทพธุรกิจ 25/8/52