banner debttrain

ระวังชำระหนี้นอกศาล เงินหายไม่รู้ตัว

สวัสดีครับ........ท่านผู้อ่าน

โลกที่หมุนเร็วพาทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา มีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ แต่ก็มีหลายอย่างที่ดับสูญไป บางสิ่งเหลือลมหายใจรวยริน รอวันเวลาที่จะสลาย แต่ก็มีบางสิ่งที่รอวันที่จะกลับมาอีกครั้ง เหมือนเช่นดั่งชีวิตของคนเรามีขึ้นและมีลง ล้มลงก็สามารถลุกขึ้นมาได้

คนจนก็มีสิทธิรวย คนที่มั่งมีก็มีสิทธิยากจน เพราะฉะนั้นคนที่มีความเป็นอยู่ที่ดีในปัจจุบันก็อย่าได้คิดว่าจะเป็นอย่างนี้ได้ตลอดไป

ยิ่งในยุคของสังคมบริโภคที่ชีวิตของคนทำงานเต็มไปด้วยการแข่งขันอย่างถึงพริกถึงขิง เพื่อแลกกับเงินเดือนที่อีกไม่นานก็ต้องถูกใช้ไป และในที่สุดทุกคนก็ต้องกลับมาสู่วงจรนี้ใหม่อีกทุก ๆ เดือน ยิ่งไม่มีทรัพย์สินสืบทอดมาจากคนรุ่นก่อน ยิ่งเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อมที่จะประสบความสำเร็จในทางการเงิน โดยเฉพาะยุคนี้มีสิ่งล่อใจอยู่มากมายที่ทำให้ทุกคนจำต้องควักกระเป๋าให้กับระบบเงินผ่อน ทั้งบ้าน รถ และบัตรเครดิต

การทำงานทุกอย่างไม่มีใครต่อเติมความฝันให้กับคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง คุณต้องรู้ตัวก่อนว่า ความฝันที่แท้จริงคืออะไร และเริ่มทำฝันอย่างจริงจัง ที่สำคัญอย่าทิ้งความฝันที่คุรสร้างมา ควรเน้นหาอาชีพที่รักจริง ๆ เพราะอาชีพที่เรารัก จะเป็นพลังกระตุ้นให้เราได้ตื่นเต้นทุกครั้งในการเริ่มวันใหม่และความสำเร็จก็จะมาสู่คุณเองในไม่ช้า

ส่วนเรื่องเด่นประจำสัปดาห์ในวันนี้จะขอเสนอในเรื่อง การชำระหนี้ตามคำพิพากษากันเองศาลไม่รับรู้ด้วย

ปัญหามีว่าเมื่อศาลมีคำพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ และศาลมีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว จำเลยเกรงว่าโจทก์จะยึดทรัพย์จึงนำเงินไปชำระหนี้ตามคำพิพากษานอกศาลดังนี้ ศาลจะรับรู้ด้วยแค่ไหนเพียงใดหรือกล่าวอีกนัยหนึ่งศาลจะยอมรับหรือไม่ว่ามีการชำระหนี้ตามคำพิพากษากันจริง

{xtypo_sticky}ขอแนะนำว่า หากจำเป็นจะต้องชำระหนี้ตามคำพิพากษาก็ควรชี้แจงให้ทราบว่า จำนวนเงินที่ต้องชำระมีอะไรบ้าง ซึ่งโดยทั่วไปก็ต้องชำระหนี้พร้อมดอกเบี้ยตามที่ศาลระบุรวมไปถึงค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความ ซึ่งก็ควรจะชำระก่อนศาลยึดทรัพย์จำเลย  ประการสำคัญก็คือ เงินที่ชำระต้องไปวางที่ศาล ไม่ใช่ชำระกันเอง  ซึ่งก็ขอให้ข้อสังเกตว่าไหน ๆ ก็ต่อสู้คดีกันในศาลแล้ว ก็ควรให้ศาลรับรู้ เช่น ยื่นคำแถลงต่อศาลว่าได้นำเงินมาวางที่ศาลเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษา ขอศาลได้โปรดรับไว้และให้โจทก์รับไป{/xtypo_sticky}

{xtypo_alert} ตัวอย่าง ลูกหนี้ยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีสำหรับหนี้ตามคำพิพากษาส่วนหนึ่ง โดยอ้างว่าลูกหนี้นั้นได้จ่ายเงินคืนให้กับเจ้าหนี้แล้ว แต่เจ้าหนี้ได้ปฏิเสธ ข้ออ้างของลูกหนี้เป็นเรื่องที่ลูกหนี้ ได้กระทำกันนอกศาลโดยศาลไม่ได้รับรู้ด้วย ข้อตกลงใดต่างๆ นอกศาลนั้น  ลูกหนี้จะยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างในการให้ศาลมีคำสั่งให้งดการบังคับคดีได้ไม่

เมื่อมาดูหลักกฎหมายแล้ว เราก็จะเห็นได้ว่า ลูกหนี้ได้ชำระหนี้ด้วยการโอนเงินให้กับเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ปฏิเสธ ซึ่งเป็นการกระทำนอกศาล ดังนั้นศาลจึงไม่รู้การชำระหนี้นั้นเลย และเมื่อศาลไม่รับรู้ ศาลก็ไม่อาจมีคำสั่งงดการบังคับคดีได้ เป็นอันว่าลูกหนี้จะต้องถูกดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายนั่นก็คือ นำทรัพย์สินที่ยึดมาขายทอดตลาดต่อไป ทั้ง ๆ ที่ลูกหนี้อาจจะชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้ไปแล้วตามที่เคยอ้างไว้{/xtypo_alert}

เพราะฉะนั้นความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับฝ่ายลูกหนี้นั้นมากมาย ทั้งการขายทอดตลาดทรัพย์สินของตนเอง ทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องขาย อีกทั้งต้องมาฟ้องเรียกร้องเงินซึ่งได้จ่ายให้เจ้าหนี้ไปแล้วคืนมา  กลายเป็นคดีใหม่ขึ้นมาอีก เป็นการเสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น จึงเป็นข้อเตือนใจว่า หากจะชำระหนี้กันแล้วต้องชำระกันในศาลเท่านั้นนะครับ

พิมพ์ อีเมล