“ณกรณ์ กรณ์หิรัญ” บอสใหญ่สถาบันเสริมความงามชื่อดัง “วุฒิ-ศักดิ์ คลินิก” ร่ำไห้กลางโต๊ะแถลงข่าว สร้างบ้านไม่ได้บ้าน เผยสูญเงินกว่า46 ล้านบาท แต่บ้านสร้างไม่เสร็จตามสัญญาพร้อมยื่นเรื่องร้องเรียน สคบ. เอาผิดถึงที่สุด ด้านผู้บริหาร “วินด์ มิลล์” โผล่กลางงานพร้อมหอบหลักฐานแจงความบริสุทธ์ ขณะที่สคบ. ระบุตามหลักฐาน“วินด์มิลล์” ผิดจริงฐานสร้างบ้านเสร็จไม่ทันส่งมอบตามกำหนด
วานนี้ (22 มิ.ย.) นายณกรณ์ กรณ์หิรัญ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เจ้าของคลินิกเสริมความงามชื่อดัง “วุฒติ-ศักดิ์ คลินิก” เดินทางพร้อมทนายความส่วนตัวเข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษบริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด ต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรณีการผิดสัญญาก่อสร้างบ้านไม่แล้วเสร็จ และไม่สามารถส่งมอบบ้านได้ทันตามกำหนด พร้อมทั้งตั้งโต๊ะแถลงข่าว ร่วมกับนางสาวจินดารัตน์ สัจจะทิพย์วรรณ หนึ่งในลูกค้าของบริษัทรับสร้างบ้าน“วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค”ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม “ไอดิโอ” ณ ห้อง ประชุม1 สำคักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างงานแถลงข่าวนายสมศักดิ์ โรจน์ดรงค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินด์มิลล์ อาร์คิเท็ค จำกัด ซึ่งเป็นคู่กรณีได้นำเอกสาร และหลักฐานสำคัญเข้าร่วมในงานแถลงข่าวโดยไม่ได้คำเชิญจากผู้เสียหาย และไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งนายณกรณ์เองก็คาดไม่ถึงมาก่อนว่านายสมศักดิ์ จะกล้าเข้ามาร่วมฟังการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย
ระหว่างการแถลงข่าว “นายณกรณ์” ถึงกับร่ำไห้เปิดใจว่า สาเหตุที่ตัดสินใจสร้างบ้านกับบริษัทวินด์มิล์ เนื่องจากเห็นว่ามีความน่าเชื่อถือ ทั้งยังมีการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ และทำการตลาดอย่างชัดเจน นอกจากนี้ บริษัทวินด์มิลล์ ยังเป็น บริษัทลูกของบริษัทพัมนาอสังหาริมทรัพย์ ชื่อดัง ทำให้เกิดความมั่นใจในการใช้บริการมากยิ่งขึ้น แต่หลังจากได้ว่าจ้างบริษัทดังกล่าวไปแล้วปรากฏว่าเกิดปัญหา และสูญเสียเงินทองจำนวนมาก โดยได้จ่ายเงินค่าก่อสร้างเกินกว่างวดงานไปแล้วแต่งานก่อสร้างยังไม่มีความ คืบหน้าจนกระทั่งครบสัญญาส่งมอบบ้านแล้วบริษัทดังกล่าวยังไม่สามารถส่งมอบ บ้านให้ได้
“ในชีวิตคนเราจะสร้างบ้านกันไม่บ่อย บ้านหลังนี้เป็นบ้านหลังแรกที่ตัดสินใจสร้างและมันคือดวงใจของคนอยากมีบ้าน จึงทุ่มเทกับบ้านหลังนี้อย่างมากเพื่อให้มีบ้านหลังแรกซึ่งเป็นบ้านในฝัน” นายณกรณ์ กล่าวทั้งน้ำตา
ภายหลังจากที่งานแถลงข่าวเริ่มไปได้ระยะหนึ่ง นายสมศักดิ์ซึ่งยื่นฟังการแถลงข่าวอยู่ด้วยจึงได้แสดงตัวขอชี้แจงข้อมูล และข้อเท็จจริง ทำให้บรรยากาศในงานเริ่มตรึงเครียด เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างนำเอกสารข้อมูลและข้อเท็จจริงออกมาโต้แย้งซึ่งกัน และกัน ในขณะที่ นายณกรณ์ ได้นำวีทีอาร์ ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่ตนและวิศวกรกลางที่เชิญมาตรวจสอบงานก่อสร้าง บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งในระหว่างนี้นายสมศักดิ์ ได้พยายามโต้แย้งข้อมูลในภาพวีทีอาร์ด้วย ทำให้นายณกรณ์ ได้ขอจบการแถลงข่าว และยืนยันไม่ข้อโต้เถียงในงาน แถลงข่าว เนื่องจากได้มีการพูดคุย และเจรจาข้อพิพาทดังกล่าวมาโดยตลอดก่อนจะมีการยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ สคบ. ซึ่งการจัดงานแถลงข่าวของนายณกรณ์ ในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการให้เข้าสู่ขั้นตอนการตรวจสอบถึงข้อเท็จจริงตามหลัก ฐานของทั้ง2 ฝ่ายโดยมี สคบ.เป็นตัวกลาง
อนึ่งนายณกรณ์ได้ทำสัญญาว่าจ้างบริษัท วินด์มิลล์ฯ ก่อสร้างบ้านในวงเงินก่อสร้าง 46 ล้านบาท บนพื้นที่1 ไร่ ในซอยศูนย์วิจัยจุฬาภรณ์ ย่านพระราม9 ซึ่งเช็นสัญญาก่อสร้างเมื่อเดือนมิถุนายน 2552 โดยมีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2553 แต่ปัจจุบันบริษัทวินด์มิลล์ดังกล่าวยังไม่สามารถก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ และส่งมอบบ้านได้ทันตามกำหนด
ด้านร้อยตรี ไพโจน์ คนึงทรัพย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กล่าวว่า การดำเนินการในกรณีดังกล่าว ขั้นตอนต่อไปคือการเรียกทั้ง2 ฝ่ายเข้ามาเจรจาและไกล่เกลี่ยกันถึงข้อพิพาทที่เกิดขึ้น หากทั้ง2ฝ่ายสามารถตกลงกันได้เรื่องก็จบไป แต่หากทั้ง2ฝ่ายไม่สามารถตกลงกันได้ สคบ.ก็ต้องดำเนินการไตรส่วนและตรวจสอบข้อเท็จริงที่เกิดขึ้น
หากพบว่าผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนหรือตกเป็นผู้เสียหายจริงก็จะ ดำเนินการแทนผู้บริโภค โดยนำเอกสารหลักฐานต่างๆ เสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคพิจารณา และทำเรื่องส่งฟ้องศาลแทนผู้บริโภคโดยผู้บริโภคไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินเรื่องทั้งหมด
“ต่อกรณีที่เกิดขึ้นนั้น หากเกิดการฟ้องร้องขั้นศาลจริง เมื่อพิจารณาตามหลักฐานและสัญญาของคู่กรณีทั้ง2ฝ่ายแล้ว ในเบื้องต้นเชื่อว่า บริษัทดังกล่าวน่าจะเป็นผู้เสียเปรียบมากกว่าผู้บริโภค เนื่องจากตามสัญญาที่ทำร่วมกันนั้น บริษัทรับสร้างบ้านไม่สามารถก่อสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ และส่งมอบบ้านได้ตามกำหนด ซึ่งถือเป็นการผิดสัญญาที่ทำไว้ตั้งแต่แรก”