จับตาธุรกิจโบรกเกอร์-นายหน้า หลัง คปภ. เตรียมปรับประกาศสั่งเปิดข้อมูลหมดเปลือกแก่ลูกค้า หวังสร้างระบบประกันภัยเป็นแบบสากล เอื้อลูกค้าเห็นประโยชน์ก่อนตัดสินใจซื้อ หวังอุดรั่วลูกค้าถูกปัดไม่รับผิดชอบ ขณะที่ตัวแทนหวั่นเป็นดาบสองคม หลังเปิดข้อมูลลามถึงค่าคอมมิสชัน ทำลูกค้าแห่ซื้อประกันแบงก์แทน
นายอำนาจ วงศ์พินิจวโรดม ผู้ช่วยเลขาธิการสายพัฒนาและวิเคราะห์ระบบการตรวจสอบสำนักงานกำกับและส่ง เสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. เปิดเผยถึงทิศทางการปรับแก้ประกาศ สำนักงาน คปภ. ว่า ด้วยเรื่องการเสนอขายกรมธรรม์ประกันชีวิต-วินาศภัย ว่า อยู่ระหว่างการศึกษาพร้อมทั้งพิจารณาปรับให้การขายประกันชีวิตให้มีความทัน สมัย ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันว่าเร็วๆ นี้ คปภ. เตรียมที่จะปรับแก้ พ.ร.บ.ที่เกี่ยวข้องกับการขายประกันชีวิตที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวแทน นายหน้าและบริษัทโบรกเกอร์ โดยเฉพาะการขายประกันต้องมีหนังสือพร้อมระบุชัดเจนว่า กรมธรรม์ที่เตรียมเสนอขายนั้นเป็นประกันประเภทใด อัตราเบี้ยอยู่ที่ระดับเท่าไรและลูกค้าได้รับผลตอบแทนในอัตราเท่าใด
รายละเอียดของการปรับแก้ไขดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ป้องกันการเข้าใจผิด หรือการขายกรมธรรม์ที่เกิดจากความไม่เข้าใจของนายหน้า ตัวแทน หรือโบรกเกอร์ดังกล่าว ทางกลับกันคือส่งผลดีโดยตรงต่อผู้ซื้อ ท้ายสุดจะสนับสนุนไม่ให้ลูกค้าเข้าใจผิด สำคัญผิด ตลอดจนถูกหลอกขายประกันที่ไม่ต้องการได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แน่นอนว่าทำให้ประกันชีวิตที่เกี่ยวข้องกับผลตอบแทนขยายตัว สูงกว่าเป้ารองรับการขยายตัวหากเปิดเสรีด้านธุรกิจประกันภัยในอนาคต
"ความยาก คือการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งเดิมทีลูกค้าเกรงใจตัวแทน อาจมาจากความสนิทสนม แต่หลังจากการปรับแก้ประกาศดังกล่าวจะทำให้ตัวแทนขายยากขึ้น ตัวแทนที่มีฝีมือเท่านั้นถึงจะขายประกันที่มีความรู้ ถึงจะขายประกันที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ โดยเฉพาะประกอบกับ ยูนิตลิงค์ และ ยูนิเวอร์แซล ไลฟ์ หรือ ยูแอล ที่ยังมีสัดส่วนน้อยมากหากเทียบกับประเทศอื่นๆ"
นายอำนาจ กล่าวอีกว่า แบบประกันทั้งสองกลุ่มมีรายละเอียด มีการโยกเข้าไปลงทุนในลักษณะที่มีความเสี่ยง ผู้จะซื้อแบบประกันดังกล่าวจำเป็นต้องศึกษาก่อนการตัดสินใจ ขณะที่แบบประกันส่วนใหญที่ขายได้ในประเทศไทยยังเป็นแบบประกันรายสามัญ ไม่มีความซับซ้อนมากกว่า แต่ต้องยอมรับว่าการปรับแก้ระบบการขายดังกล่าวแน่นอนว่าต้องกระทบต่อตัวแทน นายหน้าโดยตรง ตรงนี้ได้รับการร้องเรียนจากส่วนดังกล่าวแล้วว่า อาจส่งผลทำให้การซื้อประกันผ่านช่องทางนี้ลดลง แต่จะไปส่งผลดีต่อช่องทางธนาคาร หรือ แบงก์ แอสชัวรันซ์แทน
"เห็นได้จากที่ผ่านมาช่องทางแบงก์มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี นอกจากนี้แนวคิดดังกล่าวก็เริ่มได้รับการต่อต้านจากกลุ่มนายหน้า โบรกเกอร์บ้างแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการให้เปิดเผยค่าคอมมิสชันจากการขาย โดยมองว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้เหมือนเป็นการปิดกั้นมากกว่าจะไปส่งเสริม จึงมองว่าประกาศดังกล่าวอาจเหมือนเป็นดาบสองคม"
อย่างไรก็ตาม แม้ตอนนี้ คปภ. มีแผนที่จะจัดระเบียบการขายประกันของแบงก์ ให้แยกส่วนออกจากเคาน์เตอร์ปกติและต้องทำให้ชัดเจน ลูกค้าทราบได้ว่าจุดไหนเป็นบริการของประกัน จุดไหนเป็นบริการของธนาคารและหากสาขาไหนมีพื้นที่น้อย เช่นมีเพียง 2 เคาน์เตอร์ก็ไม่สามารถเปิดขายประกันได้
ข้อมูลจาก หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับที่ 2,762 2-4 สิงหาคม พ.ศ. 2555