หมอตาฟันธง “บิ๊กอายส์” เข้าข่ายเครื่องมือแพทย์
เขียนโดย มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) วันที่ . จำนวนผู้ชม: 5408
| โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 16 ธันวาคม 2551 08:48 น. |
 |
 | | "บิ๊กอาย" ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต |
| |
จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ชี้ อย.ควรรีบดำเนินการให้คอนแทกต์เลนส์บิ๊กอายส์ขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือโดยเร็วที่สุด ฟันธง เป็นเครื่องมือแพทย์แน่นอน เพราะต้องใส่เข้าไปในดวงตา เผย ขณะนี้หาซื้อได้ง่ายทุกที่ สุดอันตรายใช้เองไม่มีแพทย์แนะ
นพ.ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า กล่าวว่า อย.ควรรีบดำเนินการให้คอนแทกต์เลนส์บิ๊กอายส์ขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือโดยเร็วที่สุด เนื่องจากจะได้มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐาน เพราะถือว่าเมื่อพิจารณาตาม พ.ร.บ.เครื่องมือแพทย์ พ.ศ.2551 ซึ่งคอนแทกต์เลนส์ชนิดนี้ แม้ว่าจะไม่ใช่คอนแทกต์เลนส์สายตาก็ตาม ในมาตรา 4 นิยามของเครื่องมือแพทย์ ระบุว่า เป็นเครื่องใช้ หรือเครื่องกล หรือวัตถุที่สอดใส่ไปในคนหรือสัตว์ รวมถึงน้ำยาในห้องปฏิบัติการ หรือผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ หรือวัตถุอื่นใดที่ผู้ผลิตมุ่งหมายเฉพาะใช้อย่างหนึ่งอย่างใด โดยเพื่อทดแทน แก้ไข ดัดแปลง พยุง หรือค้ำ หรือจุน ด้านกายวิภาค หรือกระบวนการทางสรีระของร่างกายมนุษย์และสัตว์ ซึ่งจากนิยามถือว่าคอนแทกต์เลนส์บิ๊กอายส์เข้าข่ายอย่างไม่ต้องตีความใดๆ แล้ว
“บิ๊กอายส์ต้องใส่เข้าไปในร่างกาย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสรีระ คือ ทำให้เลนส์ตาเปลี่ยนไป ดูโตขึ้น และสอดใส่เข้าไปในดวงตาด้วยซ้ำ จะไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ได้อย่างไร ตอนนี้วัยรุ่นก็นิยมเป็นอย่างมาก และร้านทั่วไปก็ขายคอนแทกต์เลนส์นี้ แม้แต่ท่าน้ำนนทบุรีก็มีจำหน่ายแล้ว และจำหน่ายโดยที่ไม่ใช่จักษุแพทย์เป็นผู้แนะนำ ซึ่งอันตรายอย่างมาก และแม้แต่เด็กมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก็ขอเงินยายไปเพื่อไปซื้อคอนแทกต์เลนส์บิ๊กอายส์ใส่กันแล้ว” นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าว
นพ.ฐาปนวงศ์ กล่าวด้วยว่า หากไม่รีบดำเนินการให้คอนแทกต์เลนส์นี้เป็นเครื่องมือแพทย์ในอนาคตจะดำเนินการยากกว่านี้ เพราะทราบว่าตอนนี้พ่อค้าคอนแทกต์เลนส์บิ๊กอายส์จากประเทศเกาหลี มาเลเซีย สิงคโปร์ เตรียมมาลงทุนสร้างโรงงานการผลิตในไทยแล้ว หากไม่มีการควบคุมคุณภาพมาตรฐานจากภาครัฐ หากมาลงทุนในไทยแล้ว การจะขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์ในภายหลังอาจดำเนินการได้ยากกว่าเดิม
|
|
พิมพ์
อีเมล
