กรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภคเสนอ 7 ประเด็นให้ระบุใน รธน. พร้อมให้มีกม.สนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคทันที

8159287

วันนี้ (3 ธ.ค.) คณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เสนอให้บรรจุสาระสำคัญการคุ้มครองผู้บริโภค ๗ ประเด็น เพื่อให้มีกลไกป้องกันการเอาเปรียบผู้บริโภคที่มีประสิทธิภาพ ขจัดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมที่ยั่งยืน และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เป็นธรรมในรัฐธรรมนูญ


นางสาวสารี อ๋องสมหวัง ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการคุ้มครองผู้บริโภค สปช. กล่าวถึงความจำเป็นที่ต้องบรรจุข้อเสนอการคุ้มครองผู้บริโภคไว้ในรัฐธรรมนูญว่า ทุกคนเป็นผู้บริโค และปัจจุบันผู้บริโภคก็มีปัญหามากมาย เพื่อการลดปัญหาและการเอาเปรียบ คณะกรรมาธิการฯ จึงได้จัดทำข้อเสนอสำคัญ ๗ ประเด็น ให้ยกระดับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในฐานะพลเมืองตามมาตรฐานสากล, ให้ทำกฎหมายสนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคโดยเร็วที่สุด เพื่อสนับสนุนความเข้มแข็งของผู้บริโภค ให้เท่าทัน และไม่ถูกเอาเปรียบ พร้อมสนับสนุนองค์กรผู้บริโภคในการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย และร่วมกำหนดกติกาที่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค

"ต้องมีพัฒนากลไกชดเชยเยียวยาความเสียหายที่ทันทีและสะดวก เมื่อเกิดเหตุเสียชีวิต หรืออันตรายต่อสุขภาพ จากสินค้าและบริการ โดยเฉพาะบริการสาธารณะของรัฐ เช่น รถโดยสารสาธารณะ บริการสาธารณสุข เป็นต้น ยกตัวอย่างการฟ้องคดีการก่อสร้างตึกสูงใช้เวลาถึง 6 ปี หรือผู้บริโภคขึ้นรถโดยสารสาธารณะ การที่จะชนะคดีบางรายใช้เวลาถึง 2 ปีกว่าจะได้รับเงินชดเชยเยียวยา" นางสาวสารี กล่าว

ประธานกรรมาะการคุ้มครองผู้บริโภคถึงประเด็นต่อมาว่า ควรสนับสนุนให้เกิดศาลผู้บริโภคในศาลยุติธรรม เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิพากษามีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ให้ศาลใช้บทบาทเชิงรุกในการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีผู้บริโภค และไม่ให้ถือเป็นเหตุคัดค้านผู้พิพากษา ว่าไม่มีความเป็นกลาง
สนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอำนาจหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนการคุ้มครองผู้บริโภคในท้องถิ่นของตน เช่น สนับสนุนการรวมตัวกันเพื่อพิทักษ์สิทธิของผู้บริโภค และการแสดงความคิดเห็นและกำหนดหลักเกณฑ์ร่วมกับหน่วยงานของท้องถิ่น , สนับสนุนให้ผู้บริโภคในท้องถิ่นได้รับสินค้าและบริการที่ปลอดภัย , ร่วมมือกับองค์กรผู้บริโภคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ผู้บริโภคได้รับการคุ้มครองจากการลวงของโฆษณา , สนับสนุนให้ผู้บริโภคมีโอกาสเรียนรู้เกี่ยวกับการบริโภคสินค้าและบริการ
ปฏิรูปขั้นตอนการทำกฎหมายในรัฐสภา

นอกจากนี้ในรัฐธรรมนูญระบุให้มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่ประชาชนเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎรต้องใช้เวลาในการพิจารณารับหลักการในวาระแรกภายในสามเดือนนับแต่วันที่ยื่นคำร้องขอต่อประธานรัฐสภา หากพ้นกำหนดระยะเวลาดังกล่าวแล้วยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จให้ถือว่า ได้มีการรับหลักการแล้ว และในการพิจารณาตามขั้นตอนต่าง ๆ ของรัฐสภา ให้แต่ละสภากำหนดระยะเวลาในการพิจารณาไว้ในข้อบังคับการประชุมของแต่ละสภา และให้มีสัดส่วนของผู้เข้าชื่อเสนอกฎหมายในทุกขั้นตอนของการพิจารณาในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ

ประเด็นสุดท้าย รัฐต้องจัดกลไกในการป้องกันการผูกขาดทางการค้าที่มีประสิทธิภาพ มิให้เกิดการผูกขาดตัดตอนโดยกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อคุ้มครองผู้ผลิตรายย่อยและขนาดกลางเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงด้านอาหารและความมั่นคงด้านอื่นที่ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงบริการที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

“นี่เป็นครั้งแรกที่สภาปฏิรูปให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพราะฉะนั้นการคุ้มครองผู้บริโภคน่าจะมีความหมายมากขึ้น เราน่าจะเห็นการเอาเปรียบผู้บริโภคลดลง” ประธานกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวทิ้งท้าย

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน