นายกำชัย น้อยบรรจง เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคจังหวัดสระบุรี และผู้ประสานงานเครือข่ายผู้บริโภคภาคกลาง กล่าวว่า การมารณรงค์ ของเครือข่ายผู้บริโภคภาคกลาง ในครั้งนี้ เป็นตัวแทนของผู้บริโภคทั่วประเทศ มาเรียกร้องให้รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติ เร่งปฏิบัติการออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ เป็นกฎหมายประชาชน ที่ร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ แต่การเสนอกฎหมายของประชาชนเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะขั้นตอนการออกกฎหมายอยู่ในมือนักการเมือง กฎหมายที่ประชาชนเสนอมาไม่เคยมีฉบับไหนผ่านออกมาเป็นกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ได้จริง เช่น พรบ. องค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค เรารอคอยการออกฎหมายฉบับนี้ นานมากว่า 15 ปี แล้ว นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญฉบับประชนชน พ.ศ.2540 ถึง รัฐธรรมนูญ พศ. 2550 ในปัจจุบัน และยังไม่รู้ว่าต้องรอไปอีกนานแค่ไหน
ดังนั้นรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ควรแสดงความจริงใจต่อประชาชน ว่ารัฐบาลนี้พร้อมที่จะปฏิบัติการตามรัฐธรรมนูญและเจตนารมณ์แห่งรัฐธรรมนูญ โดย เร่งผลักดันกฎหมาย ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็วภายใน สมัยประชุมหน้า และต้องควบคุมไม่ให้ฝ่ายการเมือง ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล บิดเบือน หรือลดทอนเนื้อหากฎหมาย จนไม่สามารถเป็นที่พึ่งของผู้บริโภคได้อย่างกลุ่มผู้เสนอกฎหมายเสนอมา
ในแถลงการระบุว่า เนื่องในวันที่ 10 ธันวาคม ของทุกปี ถือว่าเป็นวันรัฐธรรมนูญภายใต้การปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในการนี้องค์กรเครือข่ายผู้บริโภคภาคกลางทั้ง 8 จังหวัดและเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันตก ได้ร่วมกันนำพวงมาลามาวาง ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อันเป็นสัญลักษณ์แห่งรัฐธรรมนูญ แม่บทในการปรกครองในระบอบประชาธิปไตย เพื่อรณรงค์ เรียกร้องให้รัฐบาล ทำตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 61 เร่งออกกฎหมาย พระราชบัญญัติองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ประชาชนทั่วประเทศได้ร่วมกันเข้าชื่อเสนอกฎหมายฉบับนี้มานานกว่า 15 ปี
องค์กรเครือข่ายผู้บริโภคภาคกลาง 8 จังหวัด คือ จังหวัดสระบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี ลพบุรี ปทุมธานี นครนายก และจังหวัดนนทบุรีและเครือข่ายผู้บริโภคภาคตะวันตก จำนวนกว่า 100 คน ได้นัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ 14 ตุลา ร่วมกันเดินรณรงค์เพื่อไปวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการ รณรงค์เชิงสัญลักษณ์ สะท้อน ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการเมืองไทย ในการปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ เพราะทุกรัฐบาลมักให้ความสำคัญกับระบบทุนนิยมมากกว่าการมีส่วนร่วม และความต้องการของประชาชน ทั้งที่ประชาชนร่วมกันใช้ความพยายามผลักดันกฎหมายมากว่า 15 ปี เพื่อให้เกิดสังคมที่เป็นธรรม ชี้ให้เห็นว่านักการเมืองไม่จริงใจในการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 61
ปัจจุบันกฎหมายฉบับดังกล่าว ได้อยู่ในวาระการพิจารณาของกรรมาธิการร่วมระหว่าง สส. และ สว. แต่กำลังมีกระบวนการที่พยายามบิดเบือน ลดทอน เนื้อหาของกฎหมาย ทั้ง ความเป็นอิสระของงบประมาณ และอำนาจหน้าที่ เป็นต้น รวมถึงการพยายามใช้เทคนิค ชะลอไม่ให้กฎหมายเดินหน้าได้
เครือข่ายผู้บริโภคภาคกลางขอเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการดังนี้
1 . ให้รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นผู้นำที่มีความจริงใจต่อประชาชน และพร้อมที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 61
2. ขอให้รัฐสภา เร่งนำกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการร่วม 2 สภา มาพิจารณาออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภายในสมัยประชุมหน้า
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเห็นความสำคัญกับการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และดำเนินการให้เสร็จสิ้นตามข้อเรียกร้อง เพราะนายกฯเคยประกาศว่าจะให้ของขวัญปีใหม่กับประชาชนโดยการออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค ตั้งแต่ต้นปี 2555 แต่นี่ ปี 55 กำลังจะผ่านไป ประชาชนทำได้แค่รอคอย เราอยากได้ของขวัญปีใหม่จากนายกฯ คือการออกกฎหมายองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค โดยปีหน้าเราหวังว่าจะไม่ต้องมาเรียกร้องอีก
{gallery}law/551210_consumer-middle{/gallery}