คนสะเดารวมตัวต้านห้างค้าปลีกต่างชาติคึกคัก นัดแรกประกาศ ‘รักสะเดา ไม่เอาโลตัส’เตรียมติดป้ายทั่วเมือง พร้อมยื่นหนังสือนายกเล็กสะเดา ทำตามขั้นตอนสิทธิพลเมืองที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญปี 50
วันนี้ (4 ธ.ค. ) จากการเดินสายของกระทรวงพาณิชย์ ในการรับฟังความคิดเห็นบนเวทีสัมมนาเรื่อง พ.ร.บ.ค้าปลีก : กติกาอยู่ร่วมกันในยุคทุนไร้พรมแดน เมื่อ 5 พ.ย.52 ที่โรงแรมโนโวเทล เซ็นทารา หาดใหญ่ จ.สงขลา กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เชิญผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ประกอบการโชวห่วยใน จ.สงขลากว่า 250 คน เข้าร่วมสัมมนา เป็นครั้งสุดท้ายก่อนนำข้อสรุปเสนอ ครม. เพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ค้าปลีกต่อไป แต่ข่าวคราวการผลักดันเพื่อก่อสร้างห้างค้าปลีกขนาดยักษ์หรือเอ็กซ์เพรสก็ เกิดประปรายแถบหัวเมืองเศรษฐกิจขนาดเล็กที่กำลังเริ่มเติบโต
โดยเฉพาะสะเดา เมืองธุรกิจหน้าด่านกำลังถูกรุก ทั้งตลาดสดวงจรวิถีชีวิตที่เชื่อมโยงถึงระบบเกษตรในพื้นที่ ตลาดผ้ามือสองคลองแงะ รวมถึงธุรกิจร้านค้า หาบเร่ แผงลอย รถเข็นที่อยู่รายทางกำลังจะถูกกระทบอย่างหนักระลอกใหญ่หลังวิกฤติชายแดนใต้
หลังการประชุมในสภาเทศบาลเมืองสะเดาเพื่อรับฟังความคิดเห็นในกลุ่ม ผู้เกี่ยวข้องไม่มากนักเกี่ยวกับการเกิดห้างยักษ์ในอนาคตอันใกล้ ทำให้เกิดการรวมตัวของเครือข่าย 16 ชุมชนอำเภอเมืองสะเดา รวมถึงบ้านพรุ ปาดังเบซาร์ โดยมีการแจกใบปลิวทำความเข้าใจ ให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ค้าปลีก และผลกระทบจากห้างค้าปลีกต่างชาติ และนัดหมายอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 3 ธันวาคม 2552 เวลา 19.00 น.ที่ศาลาไท้ฮั้ว สะเดา ปรากฏว่ามีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน
ทั้งนี้ ได้ร่วมกันปรึกษาหาข้อสรุปเพื่อเคลื่อนไหวตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด จัดตั้งแกนประสานงาน เพื่อเตรียมยื่นหนังสือต่อเทศบาล และนายอำเภอสะเดา รวมถึงจะดำเนินการมาตรการทางสังคมเพื่อรณรงค์ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างต่อ ไป
ระหว่างการประชุมพูดคุยหลายคนได้แสดงความคิดเห็นว่า การมาของห้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโลตัส คาร์ฟู ถ้าปล่อยให้เกิดได้ซักหนึ่งแห่งก็จะเกิดตามมาเรื่อยๆ เจ้าของกิจการหลายคนได้ให้ข้อคิดว่า ในเมืองหาดใหญ่ร้านค้าเล็กๆต้องปิดตัวไปมากไม่ใช่เพราะเหตุเศรษฐกิจตกต่ำ เพียงอย่างเดียวแต่เป็นผลมาจากการเกิดของห้างต่างชาติหลายแห่งด้วย
โดยแกนประสานจะเตรียมการจัดทำป้ายรณรงค์มีข้อความคัดค้านการเกิดห้าง โลตัส และจะติดต่อนักวิชาการเพื่อนัดหมายมาให้ข้อมูลผลกระทบต่อชุมชนที่เป็นเวที สาธารณะ ตามสิทธิการรวมตัวในการใช้สิทธิชุมชนตามที่กฎหมายกำหนดโดยมีการทิ้งท้ายให้ ร่วมกันล่ารายชื่อเพื่อแสดงเจตจำนงเป็นลายลักษณ์อักษรในการยื่นหนังสือโดย เร็วที่สุด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 ธันวาคม 2552 13:50 น.