ศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.ขอนแก่น-กาฬสินธุ์ เตรียมพร้อมขยายเครือข่าย เพื่อสร้างกลไกที่เข้มแข็ง มพบ. แนะควรประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ข้อมูลศูนย์ฯ และสิทธิของผู้บริโภคจะทำให้สร้างเครือข่ายได้กว้างขึ้น
Consumerthai - 2 ธ.ค. นางสาวสารี อ๋องสมหวัง เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค พร้อมคณะลงพื้นที่สนับสนุนศักยภาพศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั่นคือสมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น และศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.กาฬสินธุ์ ระหว่างวันที่ 2 -3 ธ.ค. 52 เพื่อรับฟังปัญหา ผลการดำเนินงาน รวมถึงเสนอแนะแนวทางการเพิ่มศักยภาพของศูนย์ฯ
นายปฏิวัติ เฉลิมชาติ ผู้จัดการสมาคมผู้บริโภค จ.ขอนแก่น กล่าวว่า สมาคมฯ มีบทบาทในการทำงาน 3 ส่วน คือ การให้ความรู้และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะเรื่องสิทธิที่พึงมี พึงได้ ส่วนที่สองคือการรับเรื่องร้องเรียน พร้อมให้คำปรึกษา ดำเนินการไกล่เกลี่ย และนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อาทิ กรณีบ้านเอื้ออาทร จ.ขอนแก่น โครงการรถโดยสารสาธารณะ เป็นต้น
บทบาทสำคัญอีกอย่างก็คือ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากร รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ชมรม และสมาคมอื่น เช่น เครือข่ายเยาวชน ส่วนการดำเนินงานในอนาคตของสมาคมฯ จะสนับสนุนเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคในระดับอำเภอและจังหวัดอื่นๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสร้างกลไกการคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความเข้มแข็ง
ด้านนางประคำ ศรีสมชัย หัวหน้าศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.กาฬสินธุ์ กล่าวถึงบทบาทหน้าที่ของศูนย์ฯ ว่า ที่ผ่านมาทางศูนย์ฯ จะเฝ้าระวังอาหารปนเปื้อนสารพิษ รับเรื่องร้องเรียนต่างๆ จากคนในชุมชน ที่สำคัญคือการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิของผู้บริโภค ส่งผลให้ปัจจุบันคนในจังหวัดลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิกันมากขึ้น เช่น เรื่องผลกระทบจากการติดตั้งเสาสัญญาณโทรศัพท์ เป็นต้น ส่วนเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคที่ศูนย์ฯ ให้ความช่วยเหลือสำเร็จนั้น ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการได้รับการรักษาพยาบาลที่ดีขึ้นจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล อีกเรื่องหนึ่ง คือ ค่าจ้างแรงงานที่ทางศูนย์ฯ ช่วยให้ผู้ร้องเรียนได้รับความเป็นธรรม โดยประสานงานกับหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
“เป้าหมายในอนาคตเราจะขยายเครือข่าย สร้างความเข็มแข็งเพื่อที่จะสามารถกระจายพื้นที่ให้ทั่วถึงได้ 18 อำเภอทั่วจังหวัด อย่างไรก็ตามอยากฝากให้สถานศึกษาให้ความรู้เรื่องสิทธิกับเด็กนักเรียนด้วย เพื่อเด็กจะได้มีความรู้ สามารถเป็นตัวเชื่อมข้อมูลกับผู้ปกครองได้” หัวหน้าศูนย์คุ้มครองสิทธิผู้บริโภค จ.กาฬสินธุ์ กล่าว
ด้านนายกฤษฎา แจ่มสุวรรณ กรรมการศูนย์ฯ กล่าวถึงปัญหาในการดำเนินงานนั้นมีเพียงเล็กน้อยเป็นเรื่องที่กรรมการมีความคิดเห็นแตกต่าง เกิดความไม่เข้าใจกัน แต่ทั้งนี้จะปรึกษาหาข้อสรุปร่วมกันได้
ขณะที่เลขาธิการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวแนะนำทั้ง 2 ศูนย์ว่า หากศูนย์ฯ ต้องการขยายเครือข่ายให้กว้าง ควรทำกลยุทธ์ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวต่างๆ เกี่ยวกับการทำงานของศูนย์ฯและสิทธิของผู้บริโภคให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงประชาชนได้ เช่น การทำข่าวแจก การทำใบแทรกในหนังสือพิมพ์ ประสานงานร่วมมือกับสมาคม ชมรมผู้สูงอายุ สถานศึกษา ฯลฯ เพื่อข้อมูลข่าวสารจะได้กระจายอย่างทั่วถึง
ข่าว: เพ็ญพิชชา เขียวพอ/พนิดา ถุงปัญญา
ภาพ: เพ็ญพิชชา เขียวพอ