บริการสุขภาพ

เปิดเว็บรพ.เอกชนโชว์ค่ารักษา

580518 health3
สธ.จ่อเปิดเว็บกลางโชว์ค่ารักษา พร้อมประสานโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่งต้องชี้แจงข้อมูลค่ารักษา



วันที่ 15 พ.ค.58  กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข เปิดเผยถึงผลการประชุมร่วมกับ กรมบัญชีกลาง, กรมการค้าภายใน, สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), แพทยสภา, สภาเภสัชกรรม รวมถึงหน่วยงานภาย ใน สธ. ได้ข้อสรุปการแก้ปัญหาโรงพยาบาลเอกชนเก็บค่าใช้จ่าย สูงเกินจริงใน 3 ระยะ คือ ระยะ สั้น ได้แก่ ใช้อำนาจตาม พ.ร.บ. สถานพยาบาล ซึ่งกำหนดไว้อยู่แล้วว่า สถานพยาบาลทุกแห่งซึ่งกฎหมายกำหนดให้ขึ้นทะเบียนกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะต้องแสดงค่ารักษาพยา บาลและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องจ่าย นอกจากนี้ ยังรวมถึงราคาค่าประกอบหัตถการ อื่นๆ ซึ่งหลังจากนี้จะนำราคาดัง กล่าวขึ้นแสดงในเว็บไซต์ของ สธ. ว่าโรงพยาบาลเอกชนแต่ละแห่งมีอัตราค่าบริการเท่าไร และจะสามารถเปรียบเทียบค่ารักษาพยา บาลของโรงพยาบาลแต่ละแห่งภายในเว็บไซต์ได้อีกด้วย โดยจะ สามารถเริ่มได้ทันทีภายใน 1 เดือน


ศ.นพ.รัชตะกล่าวอีกว่า ได้ มอบให้ สบส.ประสานโรงพยา บาลเอกชนทุกแห่งต้องชี้แจงข้อมูลค่ารักษาพยาบาลด้านต่างๆ ก่อนจะเข้าใช้บริการ และได้มีการเปิด สายด่วน 3 สาย ได้แก่ สายด่วน ของ สคบ.หมายเลข 1166 2.หมาย เลข 1330 ของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และ 3.หมายเลขของ สบส. 0-2193-7999 ซึ่งหากประสบปัญ หาการเข้ารับการรักษาสามารถโทรศัพท์แจ้งได้ทันที

"ขณะเดียวกัน ในเรื่องของการใช้สิทธิ์กรณีเจ็บป่วยฉุก เฉินในโรงพยาบาลเอกชน จะเร่ง ประกาศให้บริการการแพทย์ฉุก เฉินเป็นราคาควบคุมตาม พ.ร.บ. ราคาสินค้าและบริการ เสริมจาก นโยบายที่มีก่อนหน้านี้ โดย สปสช.เป็นผู้ทำหน้าที่จัดการค่ารักษาพยาบาล และผู้ที่เข้ารับบริการฉุกเฉินไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยคาดว่าจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ทันทีภายใน 1 เดือน" ศ.นพ.รัชตะกล่าว

รมว.สาธารณสุขระบุด้วยว่า ในระยะกลางจะใช้กลไกของ พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการเช่นกัน โดยในแง่ราคายาถือเป็นสินค้าควบคุมอยู่แล้ว ทั้งนี้จะดำเนินการ ให้ยาทุกชนิดต้องปิดป้ายราคา และจะตั้งคณะทำงานจากทุกภาคส่วน รวมถึงภาคเอกชน กำหนดราคามาตรฐาน โดยพิจารณาจากต้นทุนและกำไรที่เพิ่มจากต้นทุนของยาแต่ละชนิด โดยจะเริ่มจากยาที่มีราคาแพงเป็นอันดับแรก ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวจะมีการเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ ที่มีนายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานต่อไป ขณะที่ระยะยาวจะหารือกับโรงพยาบาลเอกชนเพื่อ จัดการบริการร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการใช้ทรัพยากรของฝ่ายเอกชน ในเรื่องการรักษาพยาบาลให้เป็นประ โยชน์สูงสุดกับประชาชน ทั้งนี้ จะเชิญสมาคมโรงพยาบาลเอกชนมาหารือร่วมด้วยภายในสัปดาห์หน้า

วันเดียวกัน ที่ห้องรับเรื่องร้องเรียนชั่วคราว ศูนย์บริการประ ชาชน สำนักงาน ก.พ. กลุ่มสมาคม วิชาชีพสาธารณสุข นำโดยนายไพ ศาล บางชวด นายกสมาคมฯ เข้า พบและยื่นหนังสือถึงพลเอกประ ยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อขอความเป็น ธรรมเกี่ยวกับมาตรฐานการกำหนดตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง, การจัดสรรอัตรากำลังด้านสาธารณสุขไม่เป็นไปตามโครงสร้าง โดยเรียกร้องขอให้กระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาถึงความมั่นคงและความก้าวหน้าในอาชีพของกลุ่มวิชาชีพสาธารณสุขอย่างเท่าเทียมกัน.

ขอบคุณข้อมูลจาก  นสพ.ไทยโพสต์  16 พ.ค. 58

พิมพ์ อีเมล