นายจิรชัย มูลทองโร่ย เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า สคบ.ได้หารือกับแพทยสภา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)และผู้ประกอบการสถานเสริมความงามเอกชน รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เพื่อพิจารณาแนวทางควบคุมธุรกิจเสริมความงามไม่ให้เอาเปรียบผู้บริโภค หลังจากที่ผ่านมาทาง สคบ.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคถึงอัตราค่าบริการทางการแพทย์หลาย รายการสูงเกินความจริง ซึ่งทางแพทยสภาได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ ก่อนจะไปพิจารณากำหนดเกณฑ์ราคาค่าบริการใหม่ให้เหมาะสม จากนั้นจะแจ้งให้ผู้ประกอบการได้ปรับราคาใหม่ในทันที

ทางแพทยสภายืนยันว่าจะเร่งทำให้เร็วที่สุด โดยจะไปพิจารณาต้นทุนอุปกรณ์ ยารักษาโรค และราคาค่าบริการใหม่ จากนั้นจะกำหนดราคาใหม่ออกมา เชื่อว่าคงปรับลดลงกว่านี้ เพราะบางรายการดูแล้วแพงไปจริง  และที่ผ่านมาก็มีผู้บริโภคร้องเรียนมาหลายราย ซึ่งเรื่องนี้ จริง ๆ แล้วยังไม่เคยมีหน่วยงานเข้ามาดูแลโดยตรง แม้ว่าปัจจุบันสถานเสริมความงามของเอกชนหลายแห่งจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ได้สอบถามไปยังกลุ่มผู้บริโภคถึงการให้บริการกับผู้บริโภคที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ว่ามีความผิดหรือไม่ และได้รับการยืนยันว่า ที่ผ่านมาผู้ประกอบการดังกล่าวจะไม่ให้บริการกับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ยกเว้นจากการได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง จึงขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการช่วยดำเนินการอย่างเคร่งครัด เพราะปัจจุบันมักมีวัยรุ่นเข้าไปใช้บริการเป็นจำนวนมาก และอาจเกิดอันตรายได้

ขณะเดียวกัน สคบ. ห่วงกรณีของผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าหน้าที่คลินิก หรือผู้ช่วยแพทย์ออกไปหารายได้เองโดยการเปิดคลินิกที่ไม่ได้รับอนุญาตบริการ ผู้บริโภค ซึ่งปัจจุบันพบว่ามีการจัดตั้งอย่างแพร่หลายบางรายเข้าไปบริการถึงบ้าน จึงมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ออกสุ่มตรวจ และขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการให้ช่วยดูแลด้วย