มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ร่วมกับเครือข่ายองค์กรผู้บริโภค ร้องศาลปกครองให้เพิกถอนประกาศ อย. ที่โอนภารกิจตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรให้กระทรวงเกษตรฯ เนื่องจากออกโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ เสี่ยงนำเข้าสินค้าไม่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค
จากกรณีเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ออก “ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร” ซึ่งเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคเห็นว่า ขั้นตอนการออกประกาศดังกล่าวเป็นการดำเนินการโดยปราศจากอำนาจ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้บริโภคโดยรวม
วันนี้ (10 กันยายน 2561) มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) และเครือข่ายองค์กรผู้บริโภคจึงร่วมกันฟ้องคดีต่อศาลเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับผู้บริโภค นางสาวบุญยืน ศิริธรรม นายกสมาคมสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวว่า เนื่องจากการดำเนินการตามประกาศ ฯ ฉบับดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิทธิด้านความปลอดภัยในการบริโภคสินค้าของผู้บริโภคโดยตรง เนื่องจาก เดิมการตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารที่นำเข้ามาในประเทศไทยนั้น อย. มีกระบวนการตรวจสอบ และการประกันคุณภาพที่ด่านตรวจ มีขั้นตอนการเก็บตัวอย่างสินค้าที่ขออนุญาตนำเข้าไว้ตรวจสอบ ก่อนจะอนุญาตให้นำเข้าและวางจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคสินค้าเกษตรและอาหารที่ปลอดภัย แต่การตรวจสอบการนำเข้าสินค้าเกษตรและอาหารของหน่วยงานในสังกัดของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์นั้น ทำการตรวจสอบเพียงเอกสารที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้เก็บตัวอย่างสินค้าที่ขออนุญาตนำเข้าไว้ตรวจสอบเหมือนที่ อย. เคยดำเนินการ
“หลังจากที่มีการออกประกาศ ฯ ฉบับดังกล่าว ประเทศไทยมีการนำเข้าปลาตาเดียวหรือปลาฮิราเมะ จากจังหวัดฟุกุชิมะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากภัยพิบัตินิวเคลียร์ โดยเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ตรวจสอบเพียงเอกสารที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่มีการเก็บตัวอย่างปลาดังกล่าวไว้ตรวจสอบแต่อย่างใด แต่กลับปัดให้ อย.ไปตรวจสอบหากมีปัญหาเมื่อสินค้าออกสู่ตลาดแล้ว ซึ่งถือว่า ขั้นตอนการตรวจสอบและการคุ้มครองผู้บริโภคถูกลดทอนอย่างชัดเจนเมื่อมีการถ่ายโอนภารกิจ” นางสาวบุญยืนกล่าว
นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล อนุกรรมการด้านอาหาร ยา หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ คณะกรรมการองค์การอิสระเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคภาคประชาชน (คอบช.) เปิดเผยว่า ก่อนฟ้องคดีปกครอง เครือข่ายผู้บริโภค และ คอบช. ได้ทำหนังสือติดตาม และให้ข้อเสนอแนะไปยัง อย. และกระทรวงเกษตรฯ ทั้งสิ้น 4 ฉบับ รวมถึงมีการแถลงข่าวคัดค้านให้ยุติการออกประกาศดังกล่าว แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจาก อย. ขณะที่สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตร ตอบกลับเพียง 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2560 ในประเด็นการแก้ไข พระราชบัญญัติอาหาร แต่ไม่ตอบเรื่องวิธีปฏิบัติงานตามประกาศฯ ดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าหน่วยงานรัฐไม่ได้ใส่ใจต่อข้อเสนอแนะขององค์กรผู้บริโภค และความปลอดภัยของผู้บริโภคในประเทศไทย
“หากสินค้านำเข้าที่ไม่ปลอดภัยแพร่กระจายไปทั่วประเทศ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะแก้ปัญหา การถ่ายโอนโยกย้ายภารกิจรังแต่จะสร้างความสับสนในการทำงานระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกันเอง สุดท้ายผลกระทบก็จะมาตกอยู่กับประชาชน นอกจานี้ กระทรวงเกษตรฯ ยังพยายามผลักดันการแก้ไข พ.ร.บ.อาหารที่ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของตัวเองเพื่อเอื้อธุรกิจ ทั้งที่ พ.ร.บ. อาหารนั้นให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค ดังนั้น คอบช. และเครือข่ายผู้บริโภคจึงตัดสินใจพึ่งศาลปกครองเพื่อเพิกถอนประกาศดังกล่าวให้มาตรฐานการคุ้มครองผู้บริโภคไม่แย่ไปกว่านี้” นางสาวกรรณิการ์กล่าว
นายเฉลิมพงษ์ กลับดี หัวหน้าศูนย์ทนายเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ในการฟ้องคดีครั้งนี้ ได้ขอให้ศาลปกครองดำเนินการใน 3 ข้อ คือ 1. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอน “ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร” ทั้งฉบับ และสั่งให้กระทรวงสาธารณสุขและ อย. ยุติการถ่ายโอนภารกิจให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบการนำเข้าสินค้าอาหาร 2. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้หน่วยงานปฏิบัติหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 และ 3. ขอให้ศาลมีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีคำสั่งให้หน่วยงานในสังกัด หยุดปฏิบัติหน้าที่ตามประกาศ อย.ดังกล่าว ทั้งนี้ การฟ้องคดีดังกล่าวขององค์กรผู้บริโภค เป็นการทำหน้าที่ของผู้บริโภคในการคุ้มครองสิทธิอันพึงมีพึงได้ของผู้บริโภคโดยรวม โดยเฉพาะสิทธิในการได้รับความปลอดภัยจากสินค้าและบริการ ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพ อนามัยของผู้บริโภคเป็นวงกว้าง และให้รัฐทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 46 และมาตรา 61
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคไม่เชื่อ อย.และกรมประมง ยืนยันต้องตรวจสอบการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี