ภญ.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการวิจัยเภสัชศาสตร์สังคม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงกรณีที่นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผลการพิจารณาของ อย.กรณียารักษาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ว่า อย.พิจารณาให้สามารถจำหน่ายในร้านขายยาที่ผ่านหลักเกณฑ์ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากำหนด เนื่องจากปัจจุบันมีการลักลอบขายยาผิดกฎหมายทั้งยาเถื่อนยาปลอมผ่านทางเว็บไซต์ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงอันตรายจากการใช้ยาปลอม และช่วยเพิ่มการเข้าถึงยาให้แก่ผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้ยา โดยมีการประชุมเพื่อหาแนวทางปฏิบัติที่เหมาะสม เช่น ร้านขายยาที่จะจำหน่ายยาดังกล่าวได้ต้องมีเภสัชกรที่ผ่านการฝึกอบรมทำหน้าที่จ่ายตามใบสั่งยาของแพทย์และให้คำปรึกษาแนะนำอย่างใกล้ชิด โดยการจะซื้อยาดังกล่าวจากร้านขายยาได้จะต้องนำใบสั่งแพทย์มาซื้อเท่านั้น ว่า
ยากลุ่มดังกล่าวมีผลข้างเคียงจำนวนมาก ไม่ใช่เพียงแต่อยากมีเพศสัมพันธ์และมีอาการไม่แข็งตัวของอวัยวะเพศจะมาซื้อยานี้ได้ทันที จำเป็นต้องได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์อย่างเข้มงวด เนื่องจากมีข้อบ่งชี้กับผู้ป่วยหลายโรคที่ไม่สามารถใช้ยาดังกล่าวได้ รวมถึงหากมีการใช้ยาอื่นๆร่วมด้วยก็ไม่สามารถใช้ยารักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศกลุ่มนี้ได้ด้วยเช่นกัน
“เรื่องดังกล่าว อย.ไม่มีระบบเช็กยาได้ว่า มาจากโรงงานไปยังระบบขายส่งและเมื่อถึงร้านขายยาแล้วมีปริมาณยาเท่าใด อย่างยาสเตียรอยด์ ที่พบว่า ปริมาณในท้องตลาดมีจำนวนมากกว่าที่บริษัทยาได้แจ้งยอดการจำหน่ายให้กับ อย.ทราบ ซึ่งเรื่องดังกล่าวทุกฝ่ายทราบดีว่าระบบการดำเนินการเรื่องยาของไทยเป็นเช่นไร นอกจากนี้ จะมีระบบในการควบคุมอย่างไรหากมีการจำหน่ายยาโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ ฯลฯ” ภญ.นิยดา กล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เชื่อว่า มีกระบวนการจากบริษัทยาที่พยายามให้การจ่ายยาดังกล่าวผ่านร้านขายยาเพราะเป็นยาควบคุมชนิดพิเศษชนิดที่ 2 ที่ต้องจำหน่ายในสถานพยาบาลเท่านั้น มาเป็นร้านขายยา เนื่องจากบริษัทยาต้องการควบคุมการจำหน่ายยาดังกล่าวได้ด้วยตนเอง เพราะที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องยาปลอมเป็นจำนวนมากทำให้สูญเสียรายได้ลงไปจำนวนมาก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ | 17 กันยายน 2552 09:05 น. |