วันนี้ (14 ธ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง การแสดงฉลากของอาหารจัดรวมในภาชนะ หรือการจัดกระเช้าของขวัญ ซึ่งเป็นลักษณะของการนำอาหาร สินค้าต่างๆ หลายชนิดมารวมไว้ด้วยกัน เป้าหมายของประกาศฉบับดังกล่าว ก็เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภค อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 และมาตรา 6(10) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522
นายจุรินทร์ กล่าวด้วยว่า การลงนามกำหนดให้อาหารมากกว่าหนึ่งชนิด หรือชนิดเดียวกัน แต่มีหลายจำนวน ซึ่งจัดรวมอยู่ในภาชนะเดียวกันที่มีการห่อหุ้มเพื่อจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นกระเช้า ตะกร้า กล่อง ถุง หรือภาชนะใดเป็นอาหารที่ต้องแสดงฉลาก ซึ่งฉลากของอาหารต้องมีข้อความเป็นภาษาไทย ที่เห็นได้ชัดเจน อ่านได้ง่าย และต้องมีข้อความดังต่อไปนี้ คือ ชื่อ ประเภท หรือชนิดของอาหารแต่ละรายการที่บรรจุ วันเดือนปีที่หมดอายุ หรือควรโภคก่อน โดยประกาศฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้วันพรุ่งนี้ (15 ธ.ค.) เป็นต้นไป
“ขอฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการทั้งหลาย ว่า จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามประกาศนี้ ไม่เช่นนั้นถือว่ามีความผิดตามประกาศ โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท อีกประเด็นหนึ่ง คือ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ถ้าจะมีการนำมาจัดพ่วงกับอาหาร หรือสินค้าอื่นในกระเช้า อันนี้จะมีประเด็นที่ไม่สามารถทำได้ตามกฎหมาย เพราะจะเป็นการนำเหล้ามาขายพ่วงกับสินค้าอื่น อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของเวลาจำหน่าย เพราะการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะต้องขายตามเวลาที่กฎหมายอนุญาตเท่านั้น”
รมว.สธ.กล่าวว่า การจำหน่ายกระเช้าของขวัญปีใหม่ ต้องปลอดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด หากในกระเช้ามีเหล้าบางส่วน หรือเป็นเหล้าทั้งหมด ถือว่าผิดกฎหมาย เพราะจัดว่าเป็นการขายพ่วง หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เป็นโทษตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551
ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ได้รายงานเฉพาะเรื่องกระเช้าปลอดเหล้า ได้มีการตรวจที่จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ เชียงใหม่ ยังไม่พบการกระทำความผิด ส่วนที่จังหวัดตรัง มีการตรวจร้านสะดวกซื้อ 7 ร้าน ไม่พบ 5 ร้าน พบการกระทำความผิด 2 ร้าน โดยจะมีแผนงานที่จะออกตรวจตลอดช่วงเดือนธันวาคมนี้ต่อไป รวมทั้งทาง อย.จะออกตรวจในส่วนของประกาศฉบับนี้ด้วย
..............................................................................................................................
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 14 ธันวาคม 2553 16:50 น.