สธ.คาดโทษจำหน่ายลูกชิ้นไม่ติดฉลาก ตรวจพบจับปรับทันที

สธ. คาดโทษผู้ประกอบการ ผู้จำหน่ายลูกชิ้นที่ยังไม่ติดฉลากตามประกาศของ อย. หากตรวจพบอีกจะจับปรับทันที 30,000 บาท และตามตรวจมาตรฐานโรงงานต้นตอ เผยผลการสุ่มตรวจในเขต กทม.และปริมณฑล 13 แห่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 พบมีผู้ปฏิบัติถูกต้องน้อยมาก เพียงร้อยละ 8 เท่านั้น

 

นายบุณย์ธีร์ พานิชประไพ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่มีข่าวพบลูกชิ้นเรืองแสง ประชาชนไม่กล้าบริโภค ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กำหนดให้ลูกชิ้นเป็นสินค้าที่ต้องติดฉลากผลิตภัณฑ์ให้ถูกต้อง และส่งหนังสือแจ้งเวียนให้ผู้ผลิต/นำเข้าผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งสถานที่ผลิต การขออนุญาตผลิตอาหาร การใช้วัตถุเจือปนอาหาร และการแสดงฉลากผลิตภัณฑ์จากเนื้อสัตว์ให้ถูกต้องเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2553 และให้ปรับปรุงแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน พร้อมทั้งแจ้งให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ตรวจสอบเฝ้าระวังภายในจังหวัด หากพบการฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522

นายบุณย์ธีร์ กล่าวอีกว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้ อย.สุ่มตรวจสอบสถานที่จำหน่ายลูกชิ้น เมื่อวันที่ 14-16 มิถุนายน 2553 ใน กทม.และปริมณฑล 13 แห่ง โดยตรวจทั้งหมด 288 ตัวอย่าง พบไม่มีฉลาก 11 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 4 มีฉลากแต่ฉลากไม่ถูกต้อง 252 ตัวอย่างหรือร้อยละ 88 โดยแสดงฉลากถูกต้องเพียง 25 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 8 สถานที่ผลิตใน กทม. 2 แห่ง ที่เหลือผลิตในต่างจังหวัด ได้ส่งเรื่องให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดที่มีสถานที่ผลิตตั้งอยู่ ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว และต่อจากนี้ไปหากเจ้าหน้าที่ อย. ตรวจพบว่าลูกชิ้นที่จำหน่ายยังไม่แสดงฉลากให้ถูกต้อง จะลงโทษตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น ทั้งผู้จำหน่าย ผู้ผลิต โดยปรับไม่เกิน 30,000 บาท

นอกจากนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ อย. ทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด ติดตามตรวจสอบกระบวนการผลิตที่โรงงานด้วย ขณะนี้มีโรงงานที่ผลิตลูกชิ้นทั่วประเทศประมาณ 150 แห่ง เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาอาหารไม่ปลอดภัยได้ทั้งระบบ ขอย้ำเตือนประชาชนให้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากเนื้อสัตว์ เช่น ลูกชิ้น ไส้กรอก อย่างระมัดระวัง ซื้อจากแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ อ่านฉลาก เพื่อมั่นใจว่าจะได้บริโภคอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สำหรับโทษตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 มีดังนี้ 1.สถานที่ผลิตอาหารเข้าข่ายโรงงาน ไม่มีใบอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ 2.สถานที่ผลิตต้องผ่านเกณฑ์จีเอ็มพี หากฝ่าฝืนปรับไม่เกิน 10,000 บาท 3.แสดงฉลากไม่ถูกต้อง มีโทษปรับ 30,000 บาท 4.พบการใช้วัตถุเจือปนอาหารไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ปรับไม่เกิน 20,000 บาท 5.พบสารเคมีห้ามใช้ เช่น บอแรกซ์ มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และเข้าข่ายอาหารไม่บริสุทธิ์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 6.หากตรวจพบจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรค จัดเป็นอาหารผิดมาตรฐาน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท และอาหารไม่บริสุทธิ์ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 7.หากตรวจพบนำเนื้อปลาปักเป้ามาเป็นส่วนผสม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 2 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท.

...............................................................................

ที่มา : สำนักข่าวไทย 2 ต.ค. 2553

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน