”ผลไม้รถเข็น”เสี่ยงท้องร่วง-มะเร็ง

สุ่ม 38 ร้าน พบขั้นตอนทำไม่สะอาด  ทั้งใส่สารกันรา  สีสังเคราะห์ พบเชื้อจุลินทรีย์-สารเคมีอื้อ  เตือนฝรั่งดองบ๊วยสีน่ากลัวระวังสะสมเป็นโรคมะเร็ง  ให้เวลา  1 เดือนแก้ไข  คาดโทษคนขายปรับ 2 หมื่น คุก 2 ปี หรือทั้งจำ-ปรับ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.53 นายองอาจ  คล้ามไพบูลย์  รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)  พร้อมพญ.มาลินี  สุขเวชชวรกิจ  รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมแถลงข่าวผลการทดสอบความไม่ปลอดภัยใน  “ผลไม้รถเข็น”

นายองอาจ เปิดเผยว่า   สคบ. ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในเรื่องความไม่ปลอดภัยในอาหารเข้ามามากโดยเฉพาะ ผลไม้รถเข็นที่มีขายทั่วไป   จึงร่วมกับ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสถาบันการศึกษา3 แห่ง  ลงพื้นที่เก็บตัวอย่างผลไม้รถเข็นจากแหล่งจำหน่าย 38 ร้านใน กทม. และปริมณฑลเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อพิสูจน์ความไม่ปลอดภัยและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคโดยใช้ชุด ทดสอบการปนเปื้อนในอาหาร (เทสต์  คิท) ของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 4 รายการ ได้แก่ ชุดทดสอบหายาฆ่าแมลงในอาหาร  ทดสอบกรดซาลิซิลิคในอาหาร  (เชื้อจุลินทรีย์)

ผลการทดสอบพบว่า ผลไม้  153 ตัวอย่าง มีการปนเปื้อนของแบคทีเรียโคลิฟอร์มหรือเชื้อจุลิน ทรีย์เกินกว่าที่มาตรฐานกำหนดถึง 67.3%  แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการเตรียมผลไม้ที่จำหน่ายไม่ถูกสุขลักษณะ ทำให้ผลไม้ไม่สะอาด และมีการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ที่อาจก่อให้เกิดโรคทางเดินอาหาร นอกจากนี้ ยังพบการปนเปื้อนของสีสังเคราะห์ ในตัวอย่างผลไม้ 161 ตัวอย่าง ถึง 16.3 %  และพบการปนเปื้อนของสารกันรา (ซาลิซิลิค) 40.7%  ขณะที่ไม่พบการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงในผลไม้สด  ในส่วนของผลไม้แปรรูปจำพวกของดอง  พบการปนเปื้อนหรือเจือปนของสารเคมี และสารปนเปื้อนของสารกันรา  ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายถึง  64.2 %  เช่น  ฝรั่งดองบ๊วยที่มีสีเขียวเข้มและสีแดงเข้มจนม่วง

รมต.สำนักนายกฯกล่าวว่า  จากการลงพื้นที่ได้รณรงค์ทำความเข้าใจให้ความรู้ผู้ผลิตและจำหน่ายรับทราบ ถึงพิษภัยที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้บริโภค  และยังผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 ระบุผู้ประกอบการ และผู้จำหน่ายที่ทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  รวมถึงควรมีสุขลักษณะที่ดีตั้งแต่เตรียมผลไม้ ภาชนะบรรจุและการจำหน่าย โดยจะให้เวลาปรับปรุงแก้ไข  1 เดือน  หากไม่มีการแก้ไข จะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจบังคับใช้กฎหมายต่อไป

ด้านพญ.มาลินีกล่าวว่า  ในส่วนของกทม.โดยชมรมคุ้มครองผู้บริโภคทั้ง 50 เขตได้ร่วมกับสำนักอนามัย นำรถโมบายออกสุ่มตรวจสารปนเปื้อนจากแหล่งผลิตอยู่เสมอ  จากการลงพื้นที่แหล่งผลิตและกระจายสินค้า พบผู้ผลิตและจำหน่ายใช้วัสดุ วัตถุดิบ และกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกสุขลักษณะ พร้อมทั้งมีการเติมสารเคมีซึ่งเป็นสารอันตรายเจือปนในผลไม้  เช่น สารกันราและสีสังเคราะห์ เพื่อให้ผลไม้มีสีน่ารับประทานโดยไม่คำถึงถึงอันตรายที่อาจเกิดกับสุขภาพผู้ บริโภคอาจท้องเสีย ท้องร่วง คลื่นไส้อาเจียน วิงเวียนศีรษะ  หูอื้อ  มีไข้  หายใจขัด  และอาจก่อให้เกิดมะเร็งในระยาว

ทั้งนี้   ได้มีการตักเตือนและตรวจสอบซ้ำบ่อยครั้ง ซึ่งหากพบมีการปนเปื้อนที่รุนแรงก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที แต่ทั้งนี้ผู้ผลิตที่รับผิดชอบต่อผู้บริโภคก็มี   ดังนั้น  ผู้บริโภคควรมีความรู้ ความเข้าใจในการเลือกรับประทานผลไม้โดยพิจารณาจากสีและลักษณะภายนอกที่ สังเกตได้ว่าเป็นสีธรรมชาติ  ไม่มีสารเจือปน หลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีสีสดผิดธรรมชาติ และเลือกซื้อจากแหล่งจำหน่ายที่สะอาดถูกสุขลักษณะหรือเตรียมรับประทานเอง ซึ่งจะปลอดภัยจากสารหรือวัตถุเจือปนที่เป็นอันตราย

........................................................................................

ที่มา : สยามรัฐรายวัน 14 กันยายน 2553

พิมพ์ อีเมล

บทความใกล้เคียงกัน