ข่าว/บทความรถโดยสาร

กรมการขนส่งทางบก เผยพบ รถตู้โดยสารที่ขับเร็วเกินกำหนดเกือบ 2,000 คัน

กรุงเทพฯ 1 พ.ค.- นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง ตามที่กรมการขนส่งทางบก ได้มีมาตรการส่งเสริมความปลอดภัยของรถตู้โดยสารสาธารณะด้วยการนำระบบเทคโนโลยี RFID มาตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางด่วน ทางยกระดับโทลล์เวย์ และมอเตอร์เวย์ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า เฉพาะเดือนเมษายน 2555 (ระหว่างวันที่ 1–30 เมษายน ณ เวลา 24.00 น.) มีรถตู้โดยสารสาธาณะที่ติดตั้งระบบ RFID วิ่งผ่านเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 162,364 คัน ในจำนวนนี้ พบ รถตู้โดยสารสาธาณะที่ขับเร็วเกินกำหนด จำนวน 1,810 คัน เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 1,432 คัน และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 378 คัน คิดเป็นจำนวนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ขับเร็วเกินกำหนดร้อยละ 1.11 จากจำนวนรถที่วิ่งผ่านจุดติดตั้งในช่วงเวลาดังกล่าว



นายสมชัย กล่าวด้วยว่า กรมการขนส่งทางบกได้ทำหนังสือแจ้ง บขส. และ ขสมก. เพื่อประสานไปยังผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้มารายงานตัวเพื่อชำระค่าปรับ ภายใน 15 วัน ซึ่งขณะนี้มีผู้ที่กระทำผิดมาติดต่อรายตัวเพื่อชำระค่าปรับแล้ว จำนวน 206 ราย เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 191 ราย และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 15 ราย ทั้งนี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกการกระทำความผิดไว้ที่ต้นทะเบียน ส่งผลให้รถคันดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้

 นอกจากนี้ ผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะจะมีความผิดด้วยฐานไม่ส่งตัวพนักงานขับรถเข้ามารายงานตัว มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท จึงขอให้ผู้ประกอบการและพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย และลดความสูญเสีย จากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมกันนี้ ยังแนะให้ประชาชนร่วมกันให้ใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี RFID โดยขอให้สังเกตจากแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้อง ต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ด้านข้างรถ มีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก. หรือ บขส. พร้อมชื่อเส้นทาง ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ ผิดกฎหมาย จะเป็นป้ายสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีน้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมายนั้นนอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้วยังยากต่อการติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมด้วย

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมเป็นเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัย “หากพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสารแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย

พิมพ์ อีเมล