ข่าว/บทความรถโดยสาร

ขนส่งร่อนหนังสือจี้ 'รถตู้ซิ่ง' จ่ายค่าปรับ

ขนส่งทำหนังสือแจ้ง  บขส. และ ขสมก. ประสานไปยังรถตู้ซิ่งมารายงานตัว เสียค่าปรับ หลังใช้ระบบ RFID พบขับเร็วเกินกำหนดเกือบ 300 คัน แนะประชาชนใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น...

 

เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2555 นายสมชัย  ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึง ผลการตรวจจับความเร็วรถตู้โดยสารสาธารณะที่วิ่งบนทางด่วน ทางยกระดับโทลล์เวย์ และมอเตอร์เวย์ ระหว่างวันที่ 1 – 6 เมษายน 2555 พบว่า มีรถตู้โดยสารสาธาณะที่ติดตั้งระบบ RFID วิ่งผ่านเครื่องตรวจจับความเร็ว จำนวน 27,864 คัน ในจำนวนนี้ พบรถตู้โดยสารสาธาณะที่ขับเร็วเกินกำหนด จำนวน 305 คัน เป็นรถร่วมบริการของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จำนวน 253 คัน และรถร่วมบริการขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำนวน 52 คัน               

นายสมชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กรมการขนส่งทางบกได้ทำหนังสือแจ้ง บขส. และ ขสมก. เพื่อประสานไปยังผู้ขับรถที่มีพฤติกรรมดังกล่าวให้มารายงานตัวและชำระค่าปรับ 5,000 บาท ภายใน 15 วัน โดยหากกระทำความผิดซ้ำปรับ 10,000 บาท พร้อมถอนรถออกจากการประกอบการ ทั้งนี้ หากไม่มารายงานตัวภายในกำหนด กรมการขนส่งทางบกจะบันทึกการกระทำความผิดไว้ที่ต้นทะเบียน ส่งผลให้รถคันดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการทางทะเบียนได้จึงขอให้ผู้ประกอบการและพนักงานขับรถตู้โดยสารสาธารณะปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย

ทั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย และลดความสูญเสียจากการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมกันนี้ ยังแนะให้ประชาชนร่วมกันให้ใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น เพื่อให้ได้รับสิทธิ์คุ้มครองความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี RFID โดยขอให้สังเกตจากแผ่นป้ายทะเบียนรถที่ถูกต้อง ต้องเป็นทะเบียนสีเหลือง ตัวเลขและตัวอักษรสีดำ ด้านข้างรถมีเครื่องหมายแสดงการเข้าร่วมกับ ขสมก. หรือ บขส. พร้อมชื่อเส้นทาง ส่วนรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมาย จะเป็นป้ายสีขาว ตัวเลขและตัวอักษรสีน้ำเงิน หรือสีดำ ซึ่งการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะที่ผิดกฎหมายนั้น นอกจากจะไม่ปลอดภัยแล้วยังยากต่อการติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เมื่อเกิดปัญหาอาชญากรรมด้วย ทั้งนี้ เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นเครือข่ายในการส่งเสริมความปลอดภัย “หากพบเห็นรถตู้โดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสารแจ้งศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารรถสาธารณะ 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง”.

โดย: ทีมข่าวเศรษฐกิจ

7 เมษายน 2555, 18:50 น.

พิมพ์ อีเมล