วันที่ 26 มี.ค. พ.ต.ท.ยิ่งบุญ พจด้วง สารวัตรเวรสอบสวน สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ  ได้รับแจ้งว่า มีเหตุรถตู้โดยสารชนท้ายรถกระบะ มีผู้เสียชีวิตติดคาซากรถและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ที่เกิดเหตุ บนทางด่วนบูรพาวิถี กม.30+900ขาออก ต.บ้านระกาศ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ฐาณุพงศ์ พรมสวัสดิ์กุล ผกก.สภ.บางบ่อ  มูลนิธิปอเต็กตึ้ง หน่วยกู้ภัยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย โดยที่เกิดเหตุเป็นช่องการจราจรเลนขวาสุดพบรถยนต์ตู้สีขาว ทะเบียน ฮท.3417 กทม.ด้านหน้าฝั่งคนขับพังยับเยินพบร่างผู้เสียชีวิตถูกอัดติดอยู่กับพวง มาลัย ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 11 ราย ใกล้กันพบรถกระบะมาสด้าสีขาวมีหลังคาโครงเหล็ก ทะเบียน บท.6040 สุพรรณบุรี  เป็นรถผู้รับเหมาทาสีเสาไฟฟ้าของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ถูกชนท้ายพังยับเช่นกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในรถกระบะจำนวน 1ราย จึงช่วยกันลำเลียงส่ง รพ.รวมชัยประชารักษ์ ทั้งหมด และช่วยกันใช้เครื่องตัดถ่างงัดร่างของคนขับรถตู้ออกจากซากรถ ทราบชื่อคือนายกมล  มูลพรม อายุ 31 ปี

สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกนำส่ง รพ.รวมชัยประชารักษ์  มีจำนวน 12 ราย  ส่วนใหญ่ศรีษะถูกกระแทกประกอบด้วย 1.ดช.กอบฟ้า คงแจ๋ว อายุ 9 ปี 2. นส. ปรายมาส ขวัญมุข อายุ 22ปี 3.นางซัน จะทารัมย์ อายุ 48 ปี 4 นส.นันทนา คำโสม อายุ22 ปี 5.นส.ลลิตา แก้วเพียร อายุ21 ปี 6.นายธนากร มโนสุดจริต อายุ26 ปี 7.นายสวาท รินคำ อายุ50 ปี 8.นส.ภิลนันท์ แซ่ว่าง อายุ18 ปี 9.นายปัญญา  คงแจ๋ว อายุ 43 ปี ที่เหลือได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสประกอบด้วย 1.นส.นิตยา จันทรมณฑล อายุ18 ปี 2. นายเฉลิมวุฒิ ทับทวี อายุ22 ปี  และ 3.นายอุดมศักดิ์ มาลีกิตติการต์ อายุ17 ปี

เจ้าหน้าที่สอบสวนนายวิชัย รักษาทรัพย์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 ถ.สฤษฏ์ยุทธศิลป์ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ให้การว่า ตนเองพร้อมพวกรวม 6 คน รับเหมาการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ทาสีเสาไฟฟ้าส่องทางบนทางด่วนบูรพาวิถี ก่อนเกิดเหตุตนเองและเพื่อนได้จอดรถกระบะเปิดไฟไซเรนให้สัญญานบนรถ อยู่ช่องขวาสุด พร้อมกับวางกรวยยางกั้น โดยตนเองเป็นคนยืนโบกรถคอยให้สัญญาน ให้รถที่มาช่องขวาสุดได้ชะลอความเร็วและเบี่ยงออกซ้ายไป ขณะที่กำลังโปกรถอยู่นั้นได้มีรถตู้คันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็วสูง และพุ่งเข้ามาหาตนโดยไม่เหยียบเบรค ตนเองและเพื่อนเห็นท่าไม่ดี จึงกระโดดหลบกัน คนละทิศคนละทาง รถคันดังกล่าว ได้ชนเข้าอย่างจังกับรถกระบะที่จอดอยู่ ตนเองและเพื่อนจึงช่วยกันนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกจากตัวรถ  โดยผู้ได้รับบาดเจ็บส่วนใหญ่ ระบุว่าคนขับรถตู้หลับใน

ด้านนางซัน จะทารัมย์ อายุ 48 ปี หนึ่งในผู้โดยสารรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า รถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้ป้ายดำวิ่งระหว่างหมอชิต-ชลบุรี ก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้นั่งมาจากหมอชิต เพื่อไปหาลูกที่ จ.ชลบุรี ขณะอยู่ในรถสังเกตุเห็นว่ารถขับด้วยความเร็วสูง และมีอาการวูบคลายหลับใน คนในรถที่นั่งอยู่ใกล้กันได้ตะโกนบอกคนขับให้ขับช้าลงหน่อย แต่คนขับกลับเร่งความเร็วขึ้นมาอีก ทำให้คนในรถไม่กล้าพูดอะไรอีกกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

เบื้องต้นทางตำรวจสันนิฐานว่ารถตู้คันเกิดเหตุเป็นรถตู้วิ่งระหว่าง หมอชิต-ชลบุรี คนขับรถตู้เกิดอาการหลับใน ขณะขับรถมาด้วยความเร็วสูง เนื่องจากผู้โดยสารให้การว่า ก่อนชนรถกระบะคนขับรถตู้ไม่เหยียบเบรกเลย  ซึ่งทำให้รถชนท้ายรถกระบะที่จอดทำงานอยู่เลนขวาสุด ซึ่งทางตำรวจจะได้สอบสวนพยานที่เป็นผู้โดยสารรถตู้อย่างละเอียดอีกครั้งต่อ ไป

ข้อมูลจาก นสพ.เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม 2555
http://www.dailynews.co.th/crime/19165