สวัสดีครับ.....ท่านผู้อ่านทุกท่าน
ย่อมเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การวางแผนทางการเงินอย่างมีระบบเป็นเครื่องมือที่ช่วยเตรียมความพร้อมไปสู่ความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งอาจจะเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการรู้จักออมเงิน และใช้เงินอย่างสมเหตุผล ยิ่งในภาวะสังคมในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยกระแสนิยมแห่งความฟุ้งเฟ้อและฟุ่มเฟือย จนทำให้คนหลงผิดกลายเป็นปัญหาต่อมาโดยเฉพาะในเรื่อง หนี้สิน เพราะฉะนั้นวิธีง่าย ๆ ที่จะพาชีวิตทางการเงินมุ่งหน้าไปสู่หนทางที่ดีขึ้นก็คือ การจัดทำบัญชีครัวเรือน
การทำบัญชีคือ การจดบันทึกรวมไปถึงข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับเงื่อนไขปัจจัยในการดำรงชีวิตของตนเองและครอบครัว ข้อมูลที่ได้จากการบันทึกจะเป็นตัวชี้วัดสถานะการณ์ความเป็นอยู่ของตนเองทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต ซึ่งถ้าไม่มีการจดบันทึกก็จะไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังช่วยในการวางแผนการใช้จ่ายเงินในอนาคตได้อย่างสมเหตุสมผล ทำให้เกิดการออม ไม่ฟุ่มเฟือย สำหรับการทำบัญชีครัวเรือนมีความสำคัญดังนี้
1. ทำให้ตนเองและครอบครัวสามารถทราบ รายรับ รายจ่าย หนี้สิน รวมไปถึงเงินคงเหลือในแต่ละวัน
2. นำข้อมูลการใช้จ่ายเงินภายในครอบครัวมาจัดเรียงลำดับความสำคัญและวางแผนการใช้จ่ายเงิน รายจ่ายใดไม่จำเป็นให้ตัดออกเพื่อให้การใช้จ่ายเงินในครอบครัวเกิดความสมดุล
อย่างไรก็ดีการทำบัญชีในครัวเรือนให้ได้ผลดีนั้นจะต้องไม่ลืมบันทึกบัญชีและจะต้องกระทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะถ้าทำไม่ต่อเนื่องจะทำให้ไม่อยากบันทึกจนทำให้เกิดการผิดพลาดในการจัดทำรายได้ เพราะฉะนั้นควรกระทำอย่างต่อเนื่องและตรงไปตรงมา
การส่งเสริมให้ประชาชนทำบัญชีในครัวเรือนนั้น ก่อนหน้านี้ก็มีรัฐบาลและหน่วยงานต่าง ๆ รณรงค์ให้ประชาชนจดบัญชีครัวเรือน แต่ก็ทำได้ไม่นานก็เงียบหายไป เพราะฉะนั้นในเมื่อบัญชีครัวเรือนมีความสำคัญทางรัฐบาลจึงต้องเร่งส่งเสริมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างค่านิยมและวินัยให้แก่ประชาชนให้รู้จักการใช้เงินอย่างมีคุณค่า เพราะคนไทยตอนนี้ตามผลสำรวจหนี้ครัวเรือนพุ่งขึ้นสูงเฉลี่ยเป็น 2.2 แสนบาทต่อครัวเรือน
เพราะฉะนั้นถ้ายังคงมีการปล่อยให้เป็นเช่นนี้ โอกาสที่ประชาชนจะมีหนี้สินล้นพ้นตัวย่อมจะมีความเด่นชัดขึ้นและอาจจะนำไปสู่ความเสียหายต่อประเทศชาติได้ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งรัฐบาลควรมีส่วนร่วมในการรณรงค์ให้ประชาชนทำบัญชีครัวเรือนอย่างจริงจัง ส่วนประชาชนก็ควรปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของตนเองให้อยู่แบบพอเพียง เพื่อเป็นเกราะป้องกันการเป็นหนี้ เพราะถ้าเกิดหนี้ขึ้นมาแล้วการแก้ไขปัญหานั้นเป็นแค่เพียงปลายเหตุ ซึ่งจะทำการแก้ไขได้หรือไม่ก็ตามแต่ความเสียหายก็ย่อมจะเกิดกับคนที่เป็นหนี้อย่างแน่นอน