สำหรับสาวๆ ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ วัยใด หรือกระทั่งหนุ่มๆ เจ้าสำอางก็ตาม เชื่อว่าทุกคนปรารถนาอยากมีใบหน้าขาวใส ไร้สิวฝ้า ไร้รอยด่างดำ ไม่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่จะแก้ปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าและเพิ่มความขาวใสเต่งตึง ด้วยการเลือกซื้อเครื่องสำอางยี่ห้อดียี่ห้อดังจากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่จะมีราคาแพง และเป็นสารเคมีสังเคราะห์ ที่เป็นพิษทั้งต่อสตางค์ในกระเป๋าและอาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งของการสะสมสารเคมี ในร่างกายไปด้วย ทั้งยังไม่นับความเสี่ยงในการแพ้เครื่องสำอางนั้นๆ ที่อาจจะถึงขั้นทำลายผิวหน้าของคุณ แทนที่จะช่วยบำรุงอีกด้วย
ปัญหาดังกล่าวมีทางแก้ที่จะมาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้สาวๆ และหนุ่มๆ ผู้รักสวยรักงามและชิงชังริ้วรอยแห่งวัยบนใบหน้าจนอยากจะกำจัดมันออกไป...
อาจารย์อมรศรี ลีลาปัญญาภรณ์ วิทยากรพิเศษด้านเครื่องหอม ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนกาญจนาภิเษก (วิทยาลัยในวัง) เผยสูตรสมุนไพรสำหรับบำรุงผิวพรรณว่า จริงๆ มีหลายสูตรที่ผู้หญิงในวังสมัยก่อนใช้บำรุงผิวหน้า ผิวพรรณให้ขาวนวลเนียนไปทั้งตัว โดยครั้งนี้ได้นำสูตรสมุนไพรที่ทำง่ายๆ ได้เองที่บ้านมาแบ่งปัน 1 สูตร เป็นสูตรที่มีส่วนผสมของสมุนไพร 7 อย่าง
“ส่วนผสมเหล่านี้ซื้อหาได้ที่ร้านขายยาแผนไทยทั่วไป ได้แก่ ว่านนางคำ 1 ขีด, ไพล 1 ขีด,ขมิ้นอ้อย 1 ขีด, ขมิ้นชัน 1 ขีด, ดินสอพองสตุ 5 ขีด, ทานาคา 3 ขีด และกวาวเครือขาว 3 ขีด ถ้าจะให้แนะนำร้านซื้อสมุนไพรเหล่านี้ แนะนำให้ซื้อแบบสกัดสำเร็จรูปจากร้านเวชพงษ์ (แยกวัดตึก) เพราะเป็นสมุนไพรที่ใหม่ และจากประสบการณ์ที่เคยซื้อคือค่อนข้างเก่าแก่และไม่หลอกลวงผู้บริโภค โดยส่วนผสมของสมุนไพรแต่ละชนิด จะให้สรรพคุณแตกต่างกันไป อย่างกวาวเครือ จะช่วยให้หน้าเด้ง ส่วนทานาคา ช่วยลดริ้วรอย ว่านนาคำ ช่วยทำให้ผิวสีทอง (สีน้ำผึ้ง) เป็นต้น”
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องหอมรายนี้อธิบายต่อว่า เมื่อซื้อสมุนไพรเหล่านี้มาแล้ว ให้นำทุกอย่างมาคลุกเคล้ากันในชามอ่างจนเป็นเนื้อเดียวกัน สิ่งที่ต้องระวังก็คือต้องใช้ภาชนะกระเบื้องหรือแก้ว ห้ามใช้ภาชนะพลาสติกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากสมุนไพรบางตัวจะมีปฏิกิริยากับพลาสติก และอาจทำละลายจนกลายเป็นสารปนเปื้อนได้ จากนั้นเมื่อคลุกเคล้าจนเป็นเนื้อเดียวกัน ให้แบ่งส่วนที่จะใช้ไว้ ส่วนที่เหลือเก็บใส่ขวดแก้วปิดฝาให้สนิท สามารถเก็บไว้ได้นาน 2 ปี อย่างไรก็ตาม ถ้าใช้เพียงคนเดียว หรือ 2 คน ขอแนะนำซื้อลดลงอย่างละครึ่ง
“สมุนไพรตำหรับหน้าใสนี้เป็นตำหรับชาววัง สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ใช้ขัดตัวก็ได้ ส่วนวิธีการใช้กับใบหน้า ให้นำสมุนไพรที่ผสมแล้วตักใส่ภาชนะที่สะอาดกะว่าพอใช้ครั้งเดียว จากนั้นเราตัดสินใจเลือกว่าจะผสมด้วยน้ำเปล่า น้ำผึ้ง นมสด หรือโยเกิร์ต ที่เหมาะกับสภาพผิวของเรา เพราะส่วนผสมที่เป็นน้ำที่เราต้องเลือกนี้ จะมีผลต่อผิวต่างกัน เช่นน้ำผึ้งจะเหมาะกับคนผิวหน้าแห้ง ช่วยสมานแผล เช่นหน้าแตก ลอก รอยแผลสิว ในขณะที่โยเกิร์ตและนมสดจะช่วยให้ผิวหน้านุ่มขึ้น”
สำหรับขั้นตอนการพอกสมุนไพรสูตรเด็ดนี้ อ.อมรศรีแนะนำว่า ก่อนจะทาสมุนไพรให้ล้างหน้าให้สะอาด จากนั้นนำมาทาทิ้งไว้จนรู้สึกสมุนไพรหมาดๆ โดยจะใช้เวลาประมาณ 15-30 นาทีขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนว่าผิวแห้ว ผิวมัน หรือทีโซน หลังจากนั้นค่อยๆ ใช้มือขัดผิวใบหน้าเบาๆ ให้ทั่วประมาณ 5 นาที จากนั้นล้างน้ำโดยใช้โฟมล้างหน้า ล้างจนกว่าใบหน้าจะสะอาด หากล้างสมุนไพรไม่เกลี้ยงสมุนไพรจะตกค้างไปอุดรูขุมขนจะทำให้สิวขึ้นแทนที่ ใบหน้าใสปิ๊ง
“การพอกสมุนไพร ให้สังเกตอย่าให้หนาจนเกินไป แค่ทาบางๆ โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งทำครั้งแรกๆ เพื่อให้เวลาผิวปรับสภาพทีละเล็กทีละน้อย อย่างไรก็ตาม ถ้าใครทำแล้วรู้สึกว่ามีเม็ดผื่นขึ้นล่ะก็ ให้หยุดใช้ทันที เพราะอาจจะแพ้สมุนไพรตัวใดตัวหนึ่ง ทั้งนี้ ตำหรับนี้ยังนำมาขัดผิวพรรณตามร่างกายได้ด้วย ใช้น้ำ หรือน้ำมะขามเปียกที่เจือจาง”
อ. อมรศรีทิ้งท้ายด้วยว่า การขัดสมุนไพรใบหน้าให้ได้ผลว่า การบำรุงผิวพรรณให้สวยใส อย่าใจร้อน ต้องใช้เวลาแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำสัปดาห์ละ 2 ถึง 3 ครั้งก็พอแล้วเพื่อให้ผิวค่อยๆ ปรับสภาพ พอทำไประยะหนึ่งให้สังเกตผิวพรรณของตัวเอง หรือลองใช้มือลูบไล้ใบหน้าจะพบว่ารูขุมขนจะเล็กลง ผิวพรรณจะนุ่มเนียน รอยด่างดำ จะค่อยๆ จาง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 กรกฎาคม 2553 09:12 น.