คุมเข้มอีกครั้งรถทัวร์ 2 ชั้น 7,412คัน ต้องพาผู้โดยสารกลับบ้านฉลองสงกรานต์อย่างปลอดภัย ใช้จีพีเอสเอ็กซเรย์ความเร็วตลอดเวลาซิ่งเกินเตือนทันที คุมกำเนิดห้ามจดทะเบียนใหม่แล้วตั้งแต่ 20 มี.ค. 60 รถเก่ารอ 4-5 ปี ปิดตำนานรถสูง

กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) โดยนายกมล บูรณพงศ์รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผย มาตรการคุมเข้มอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์เพื่อ”ลดตาย” ในส่วนของรถโดยสาร 2 ชั้นที่มักเกิดอุบัติเหตุสูง เปิดจดทะเบียนรถโดยสารสาธารณะ 2 ชั้นวันสุดท้ายเมื่อ 20 มี.ค. ที่ผ่านมา ต้องมีความสูงไม่เกิน 4 เมตร จากเดิมไม่เกิน 4.3 เมตร แต่รถทัวร์ 2 ชั้นในระบบจดทะเบียนวิ่งให้บริการได้เหมือนเดิม ได้บังคับติดตั้งระบบจีพีเอสเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมผู้ขับรถ ปรับปรุงสภาพรถ ซ่อมตัวถังรถ ต้องปรับระดับความสูงของรถเหลือไม่เกิน 4 เมตร มีอายุการใช้งานไปอีกประมาณ 4-5 ปี จะปิดตำนานรถ 2 ชั้นในเมืองไทย อีกทั้งสามารถปรับเปลี่ยนรถ 2 ชั้นให้เหลือชั้นเดียวโดยกรมฯ สนับสนุนด้านต่างๆเพิ่มความความปลอดภัย

สถิติการจดทะเบียนในระบบรถทัวร์ 2 ชั้น ทั้งหมด 7,412 คันทั่วประเทศ แบ่งเป็น 3 ประเภท ประกอบด้วย 1.รถโดยสารประจำทางส่วนกลาง 991 คัน ส่วนภูมิภาค 938 คัน รวม 1,929 คัน 2.รถโดยสารไม่ประจำทาง ส่วนกลาง 1,787 คัน ส่วนภูมิภาค 3,633 คัน รวม 5,420 คัน และ 3.รถโดยสารส่วนบุคคลส่วนกลาง 18 คัน ส่วนภูมิภาค 45 คัน รวม 63 คัน

ในด้านมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยรถโดยสารปรับอากาศประจำทาง 2 ชั้น ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีการแจ้งให้ผู้ประกอบการติดตั้งจีพีเอสเชื่อมข้อมูลกับศูนย์สำนักงานจังหวัดขนส่งทั่วประเทศและศูนย์บริหารจัดการเดินรถของกรมฯ เพื่อตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ อาทิ ควบคุมการใช้ความเร็วรถไม้ให้เกิน 90 กม.ต่อชม.ตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะช่วงทางโค้งและทางลาดชันต้องใช้ความเร็วต่ำลงอีก 30-40 กม.ต่อชม. หากฝ่าฝืนจะมีระบบการเตือนผู้ขับทันที และต้องปฏิบัติตามป้ายสัญลักษณ์ที่กรมทางหลวง (ทล.) ได้ติดตั้งไว้

พนักงานขับรถต้องพักผ่อนเพียงพอ มีใบขับขี่รถสาธารณะถูกต้อง ตรวจวัดแอลกอฮอล์ สารเสพติด ในเส้นทางที่มีระยะทางเกิน 400 กม. ต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน เพื่อเปลี่ยนกันขับ และหากขับไปได้ 4 ชม. ต้องหยุดพัก 30 นาทีแล้วเดินทางต่อ ก่อนการเดินทางทุกครั้ง ตรวจเช็คสมุดประจำรถ เช็คชม.การทำงาน ตารางวิ่ง

ต้องตรวจสภาพรถให้พร้อมใช้งาน อาทิ ล้อรถ ดอกยางรถ กระจกหน้า กระจกข้าง ยาง เข็มขัดนิรภัย อุปกรณ์ฉุกเฉินบนรถเช่น ถังดับเพลิง ค้อนทุบกระจก ประตูฉุกเฉิน รวมทั้งตรวจรถที่ออกทุกสถานีขนส่ง
ตรวจสอบความเร็วรถ ให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทุกจังหวัดต้องใช้กล้องตรวจสอบความเร็วรถเป็นระยะโดยเฉพาะช่วงที่รถให้บริการหนาแน่น ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้ประกอบการหรือพนักงานขับรถการกระทำผิดจะดำเนินการลงโทษสูงสุดทันที

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม นสพ.เดลินิวส์