อุบัติเหตุรถบัสทัศนศึกษานักเรียน ตกเหว ที่ถนนมิตรภาพสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 6 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 40 คน เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นอีกครั้งของความสูญเสียคนของอนาคตประเทศ

ชดเชยเยียวยาได้แต่...น้อยความสูญเสีย
สำนักงาน คปภ. จังหวัดนครนายกให้ข้อมูลว่า รถบัสหมายเลขทะเบียน 30-1027 อุบลราชธานี ได้ทำประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) กับบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งผู้เสียหายสามารถขอรับค่าสินไหมทดแทนจากประกันภัยรถภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ในกรณีเสียชีวิตและทุพพลภาพถาวร รายละ 300,000 บาท และกรณีบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 80,000 บาทต่อคน รวมทั้งค่าชดเชยรายวันสำหรับการพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลวันละ 200 บาท รวมกันไม่เกิน 20 วัน

ในส่วนของอาจารย์และนักเรียนได้ตรวจสอบแล้วพบว่ามีการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) กับบริษัท สยามชิตี้ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะได้รับค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวรจะได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) รายละ 100,000 บาท สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริงครั้งละไม่เกิน 6,000 บาทต่อคน และหากเสียชีวิตจะได้รับค่าปลงศพรายละ 20,000 บาท

อย่างไรก็ตามขอให้ญาติหรือทายาทของผู้ประสบภัยตรวจสอบการทำประกันชีวิตและการทำประกันภัย ของผู้ประสบภัยว่าได้มีการทำประกันภัยอื่นๆเพิ่มเติมไว้หรือไม่ หากมีการทำประกันภัยเพิ่มเติมขอให้แสดงเอกสารและหลักฐานต่อบริษัทประกันภัย เพื่อจะได้รับความคุ้มครองจากการทำประกันภัยอย่างครบถ้วน

งบทัศนศึกษาน้อย ต้องประหยัดงบประมาณ
แม้จะสามารถเรียกค่าชดเชยเยียวยาได้แต่เมื่อมองที่ความสูญเสียแล้ว ไม่อาจประเมินค่าได้ ทำให้ฝ่ายจึงร่วมกันเสนอทางออกระยะยาวอย่างนายนิกร จำนง ประธานชมรมไทยปลอดภัย ซึ่งศึกษาเรื่องตลอดพบว่างบในการจัดทัศนศึกษาของโรงเรียน มีจำกัดทำให้โรงเรียนพยายามลดค่าใช้จ่าย มีการใช้รถโดยสาร 2 ชั้น บรรทุกเด็กได้มาก หรือ ออกเดินทางกลางคืนเพื่อประหยัดค่าที่พัก รวมทั้งใช้พนักงานขับรถคนเดียวเพื่อประหยัดงบ จึงทำให้เกิดเหตุการณ์อันเกิดความสูญเสีย ที่ผ่านมากมธ.วิสามัญขับเคลื่อนการปฏิรูประบบความปลอดภัยทางถนน สปท.ได้สรุปวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นแผนระยะกลางเสนอไปยังรัฐบาลแล้ว และได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการเพื่อป้องกันและแก้ปัญหานั่นก็คือ 1.ให้สำนักงบประมาณปรับเพิ่มเพดานในการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจัดทัศนศึกษาให้เหมาะสมกว่าที่เป็นอยู่ ขณะที่กระทรวงศึกษาธิการต้องทบทวนเรื่องค่าหัวของเรียนที่จะเดินทางไปทัศนศึกษาไปพร้อมกัน

นายนิกร กล่าวต่อว่า 2.ขอให้โรงเรียนและเขตพื้นที่การศึกษาเข้มงวดในมาตรการที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) เคยมีประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้ 3.สพฐ.ต้องเพิ่มระบบการติดตามการปฏิบัติตามข้อสั่งการ พร้อมทั้งตรวจสอบ สอบสวนหาสาเหตุที่มีการปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตาม และ 4.การศึกษาไม่ว่าจะอย่างไรก็ยังมีความจำเป็น ดังนั้นก่อนที่จะมีการแก้ไขข้อจำกัดด้านงบประมาณ ก็ขอให้ทางชมรมผู้ปกครองเข้ามาร่วมช่วยเหลือด้านค่าใช้จ่ายให้กับโรงเรียน และให้ตรวจสอบว่า ถ้าการเดินทางมีความที่เสี่ยงก็ควรยับยั้งไม่ให้บุตรหลานเข้าร่วมโครงการ เพราะเป็นกรณีที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดอันตรายมาก

คุณภาพรถ VS เส้นทางเสี่ยง
เหตุการณ์นี้ไม่เพียงแค่สร้างความสูญเสีย แต่หากวิเคราะห์กันทีละจุด ทั้งถนน รถ คน ทั้งหมดล้วนเป็นปัจจัย ที่ทำให้ถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่า
รถโดยสาร 2 ชั้น ที่บรรทุกครู นักเรียนจากจังหวัดขอนแก่น 50 ชีวิต เสียหลักพุ่งตกเหวลึกกว่า 80 เมตร บริเวณถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี มีสภาพพังเสียหายทั้งคันบริเวณชั้น 2 ของตัวรถ และเบาะหลุดกระจาย ตัวถังพังเสียหาย จนไม่เหลือเค้าโคงเดิม

ถนนสาย 304 เป็นเส้นทางที่ตัดผ่านภูเขา มีลักษณะโค้งลาดชันตลอดทั้งเส้น ภูมิประเทศเช่นนี้ ไม่เอื้อให้รถขนาดใหญ่วิ่งผ่าน ทำให้จุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง จะเป็นไปได้หรือไม่ที่ทั้งคนจ้างและผู้รับจ้างจะตกลงเรื่องเส้นทาง หรือตรวจสอบคุณภาพรถก่อนออกเดินทางเพื่อตัดไฟต้นทางการเกิดอุบัติเหตุ หรือมาตรการกำกับดูแลที่เข้มงวดของกรมการขนส่งทางบกเกี่ยวกับการตรวจสภาพรถ การทดสอบลาดเอียง รวมไปการกำกับดูแลอื่นๆ ควรจะเป็นอย่างไร ยังเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคตั้งคำถาม ?

อ้างอิงจาก มติชนออนไลน์ ,นสพ.โพสต์ทูเดย์ , MGR Online วันที่ 9 มี.ค.